กลายเป็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวางไปทั่วโลกเลยทีเดียว สำหรับนโยบายของประธานาธิบดีคนล่าสุดของสหรัฐอเมริกา โดนัดล์ ทรัมป์
เมื่อเขาได้ลงนามคำสั่งห้ามผู้อพยพเข้าประเทศชั่วคราว รวมทั้งแบนไม่ให้ชาวมุสลิมจาก 7 ประเทศเข้าสหรัฐอเมริกา แม้พวกเขาเหล่านั้นจะมีกรีนการ์ดก็ตาม
โดยช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมาทรัมป์ได้ลงออกคำสั่งห้ามไม่ให้ผู้อพยพเข้าสหรัฐอเมริกาเป็นเวลาอย่างน้อย 120 วัน และในอีกสามเดือนข้างหน้า พวกเขาจะแบนวีซ่าจาก 7 ประเทศมุสลิม
ประเทศในลิสต์ได้แก่ อิรัก อิหร่าน ลิเบีย โซมาเลีย ซูดาน ซีเรีย และเยเมน เพื่อคัดกรองและลดความเสี่ยงที่จะมีผู้ก่อการร้ายแฝงตัวเข้ามาในประเทศ
คำสั่งดังกล่างสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก เพราะคำสั่งแบนผู้อพยพดูจะขัดกับอุดมการณ์ของสหรัฐอเมริกาที่เป็นดินแดนแห่งเสรีภาพ
รวมทั้งการแบนวีซ่า 7 ประเทศมุสลิมไม่เพียงส่งผลเฉพาะนักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ผู้ที่เข้ามาพักอาศัยและทำงานในสหรัฐอเมริกาด้วยวีซ่าทำงานก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน
แต่ล่าสุด ซันดาร์ พิชัย ซีอีโอของบริษัท Google คนปัจจุบัน เตรียมบริจาคเงินกว่า 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (70 ล้านบาท) เพื่อช่วยเหลือเหล่าผู้อพยพ และเขาเชื่อว่าพนักงานของบริษัท ก็จะช่วยบริจาคกันอีกราวๆ 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
พิชัยได้กล่าวอีกว่าจะมีพนักงานของ Google ราวๆ 200 คน ได้รับผลกระทบจากคำสั่งแบนวีซ่ามุสลิมครั้งนี้ ซึ่งพวกเขาได้สั่งให้พนักงานเหล่านั้น กลับมาในสหรัฐอเมริกาทันทีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“เรากังวลว่าคำสั่งนี้จะมีผลกระทบต่อเหล่าพนักงานกูเกิ้ลและครอบครัวของพวกเขา ซึ่งมันอาจจะเป็นการสร้างกำแพงต่อการที่คนมีความสามารถทั้งหลายจะเข้ามาในอเมริกาด้วยเช่นกัน” ซันดาร์กล่าว
จากข้อมูลของ Council on American-Islamic Relations กล่าวว่า มีชาวมุสลิมราว 250,000 คน ทำงานอยู่ในบริษัทไอทีชั้นในซิลิคอนวัลเลย์ ที่ตั้งอยู่ที่เมืองซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา
ซึ่งแน่นอนว่าหลายๆ บริษัทได้รับผลกระทบจากคำสั่งแบนเหล่านี้เป็นอย่างมาก และบริษัทเหล่านี้ส่วนใหญ่จะมีแนวคิดค่อนข้างหัวก้าวหน้า จึงออกมาต่อต้านนโยบายนี้เช่นกัน รวมถึงอาจจะมีอีกหลายบริษัทที่เข้าร่วมด้วย…
ที่มา dailymail
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.