ในยุคที่พลังงานถ่านหินกลายเป็นแหล่งพลังงานที่ล้าหลังและเต็มไปด้วยมลพิษ หลายๆ ประเทศต่างพยายามพัฒนาและผลักดันพลังงานทางเลือกให้กลายเป็นแหล่งพลังงานใหม่ ไม่ว่าจะเป็นพลังงานจากเขื่อน พลังความร้อนใต้พิภพ พลังงานลม และที่ขาดไม่ได้เลยคือพลังงานแสงอาทิตย์
ถึงแม้พลังงานแสงอาทิตย์จะสะอาดและหาได้ทั่วไป (ขอเพียงท่านมีพื้นที่และแสงอาทิตย์เท่านั้น) แต่ต้องยอมรับว่า พลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานที่ใช้ต้นทุนค่อนข้างสูงและยังไม่มีจุดคุ้มทุนเสียด้วย
แต่ล่าสุดในปี 2016 ที่ผ่านมา ประเทศจีนได้แสดงความเป็นผู้นำโลกยุคใหม่ หลังกระทรวงพลังงานของจีนได้ออกมาประกาศว่า พวกเขาได้กลายเป็นประเทศที่ผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ได้มากที่สุดในโลก
ตลอดทั้งปี 2016 พวกเขาสามารถผลิตไฟฟ้าได้ 77.42 กิกะวัตต์ (77,420 เมกกะวัตต์ ขณะที่ประเทศไทยใช้พลังงานไฟฟ้าปีละ 28,000 เมกกะวัตต์) และภายในสามปีข้างหน้า พวกเขาจะเพิ่มกำลังการผลิตไปให้ได้ที่ 110 กิกะวัตต์ต่อปี ซึ่งจะนับเป็น 20 เปอร์เซ็นของการใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งประเทศ
ด้วยภูมิประเทศที่เหมาะสม ทำให้จีนสามารถตั้งแผงโซลาร์เซลได้เป็นจำนวนมากในแถบมณฑลเหอหนาน ซินเจียง ซางตง รวมถึงมองโกเลียอีกด้วย
สาเหตุที่ประเทศจีนผลักดันการใช้พลังงานแสงอาทิตย์เนื่องจากต้องการลดการนำเข้าพลังงานฟอสซิลจากต่างประเทศ และทางการจีนคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ (10 ล้านล้านบาท) ในการปรับปรุงระบบการผลิตไฟฟ้าภายในประเทศทั้งหมด
ในขณะที่สหรัฐอเมริกายังเอาแน่เอานอนไม่ได้ และยุโรปยังอยู่ในช่วงขาลง ไม่แน่เราอาจได้เห็นพญามังกรกลายเป็นผู้นำโลกยุคใหม่ก็เป็นได้
ที่มา digitaltrends
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.