ถึงแม้ว่าข่าวคราวเกี่ยวกับสงครามผู้ก่อการร้าย ISIS จะดูเบาบางลงในสื่อบ้านเรา แต่ทุกวันนี้สงครามยังไม่จบ มีจำนวนยอดผู้ก่อการร้ายที่เสียชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ และหนึ่งในนั้นก็เป็นฝีมือของเธอคนนี้นี่แหละ
‘Joanna Palani’ สาววัย 23 ปี เชื้อสายอิหร่าน-เคิร์ด เกิดในค่ายผู้ลี้ภัยเมือง Ramadi ประเทศอิรัก เริ่มยิงปืนครั้งเมื่ออายุ 9 ปี
จนกระทั่งได้ไปเป็นนักศึกษาสาขารัฐศาสตร์ ที่ประเทศเดนมาร์ก แต่แล้วเธอก็เลือกที่จะสละฝันการเป็นบัณฑิต และเลือกที่จะเดินเข้าสู่สมรภูมิรบ ด้วยอุดมการณ์ของเธอที่ต้องการจะต่อสู้เพื่อความถูกต้อง
เดิมทีเธอมาจากครอบครัวผู้อพยพ ที่ได้ย้ายหลักปักฐานไปอยู่ในเดนมาร์กมาตั้งแต่สมัยเธอยังเด็กๆ
จนกระทั่งต่อมาในปี 2014 เธอตัดสินใจที่จะลาออกจากการเป็นนักศึกษา และเข้าสู่สมรภูมิสงครามในซีเรีย
‘ฉันต่อสู้เพื่อสิทธิสตรี เพื่อประชาธิปไตย และเพื่อปกป้องแผ่นดินยุโรป ในฐานะที่ฉันเป็นประชากรของชาวเดนมาร์ก’ เธอกล่าวไว้ในเฟซบุ๊กส่วนตัว
ตลอดเวลาที่ผ่านมาคาดว่าเธอได้จัดการทหาร ISIS ไปแล้วมากกว่าหลายร้อยคน
อีกทั้งเธอยังเป็นคนที่ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือหญิงสาวชาว ‘ยาซีดิ’ จากการถูกจับเป็นทาสโดยกลุ่มผู้ก่อการร้าย
‘มีคนตั้งค่าหัวฉันไว้สูงถึง 1 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ฉันอาจจะตายได้ทุกเมื่อ แต่นั่นก็ไม่หยุดความตั้งใจของฉันได้’
‘ในฐานะที่ฉันอยู่หน่วยซุ่มยิง ฉันสามารถอยู่ในแนวหน้าของสนามรบได้นานถึง 9 วัน คุณต้องมีสติตลอดเวลา และเผลอไม่ได้เลย’
แต่การกระทำดังกล่าวทำให้เธอเป็นที่จับตามองของทางการเดนมาร์ก ถึงขนาดต้องสั่งแบนไม่ให้เธอกลับไปที่สมรภูมิรบอีก หลังจากที่เธอกลับมาในปี 2015
แต่นั่นก็หยุดเธอไม่ได้ เธอยอมละเมิดกฏ และกลับไปที่อิรัก ก่อนจะเดินทางเท้าเพื่อเข้าสู่เขตชายแดนของซีเรีย
เธอเชื่อว่าตัวเองถูกมองว่าเป็นผู้ก่อการร้ายจากอีกฝั่งหนึ่งเหมือนกัน และนั่นทำให้เธอต้องย้ายที่อยู่อาศัยบ่อยๆ เพื่อป้องกันการลอบโจมตี
‘ฉันรู้สึกผิดค่ะที่ละเมิดกฏหมาย แต่ฉันไม่มีทางเลือก เพราะนี่คือสิ่งเดียวที่วนเวียนอยู่ในหัวฉันตลอดเวลา’
‘ถึงแม้ว่าสิ่งที่ฉันทำจะพรากอิสระภาพของฉันไปในอนาคต แต่ฉันก็ขอยืนยันต่อสู้เพื่อเสรีภาพ และสันติภาพของทุกคน’
เธอช่างเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งมาก ยอมใจเธอเลยจริงๆ
ที่มา: Boredpanda, dailymail, broadly.vice
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.