สำหรับคนทั่วไป การล้มก้นจ้ำเบ้าอาจไม่เชื่อเรื่องร้ายแรงอะไร เพราะเดี๋ยวคุณก็ลุกขึ้นมาได้ (ถ้าไม่บาดเจ็บอะไร) แต่ถ้าคุณน้ำหนัก 220 กิโลกรัมล่ะก็ นั่นอาจเป็นอีกเรื่องหนึ่งแล้ว
เรื่องราวดังกล่าวเป็นของ เสี่ยวหวง หนุ่มคนหนึ่งจากเมืองวู่หาน มณฑลเหอเป่ย ประเทศจีน นับตั้งแต่เด็กแล้วเขาจะตัวใหญ่กว่าเพื่อนๆ ในวัยเดียวกันเสมอ จนกระทั่งเมื่อ 7 ปีก่อน น้ำหนักเขาก็พุ่งทะยานอย่างหยุดไม่อยู่แตะ 200 กิโลกรัม และกลายเป็นคนที่อ้วนที่สุดในเมือง
น้ำหนักตัวที่มากขนาดนั้น ทำให้เขาไม่เพียงเคลื่อนไหวยากเท่านั้น แต่ยังทำให้เขาไม่สามารถหางานทำได้ด้วย ทำให้หลังจากเรียนจบเป็นต้นมา เขาก็เอาแต่เล่นเกมคอมพิวเตอร์อยู่ที่บ้าน
ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ครอบครัวของเขาพยายามพาเขาตระเวนหาทางลดน้ำหนัก แต่ก็ไม่มีวิธีไหนประสบความสำเร็จแม้แต่วิธีเดียว จนสุดท้ายน้ำหนักเขาก็เพิ่มไปจนถึง 220 กิโลกรัม
ด้วยความเป็นห่วงเรื่องสุขภาพ ตั้งแต่ช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา พวกเขาได้บังคับให้เสี่ยงหวงลดน้ำหนัก ด้วยการลดอาหารและงดขนมทุกชนิด ซึ่งการลดอาหารครั้งนี้ ทำให้เสี่ยวหวงไม่ค่อยมีแรงและเป็นลมง่าย อย่างเช่นเมื่อช่วงต้นเดือน เขาเป็นลมในห้องน้ำ ครอบครัวของเขาต้องโทรเรียกตำรวจมาช่วยพาเขาไปโรงพยาบาล
หลังจากทำการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลกว่าหนึ่งสัปดาห์ เมื่อช่วงวันจันทร์ที่ผ่านมาเขาก็ได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้ และระหว่างที่เขากำลังจะขึ้นแท็กซี่หน้าโรงพยาบาลนั้นเอง เขาก็เกิดลื่นล้ม และเขาไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้ด้วยตนเอง
แม่ของเสี่ยวหวงจึงโทรเรียกตำรวจมาช่วย ตอนแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจมากันเพียงสองคน ซึ่งไม่สามารถทำอะไรได้เลย พวกเขาจึงโทรเรียกกำลังเสริมมาอีกเจ็ดคน ทั้งหมดพยายามช่วยให้เสี่ยวหวงยืนขึ้น แต่ก็ล้มเหลว
ซักพักใหญ่ๆ ต่อมา เจ้าหน้าที่ดับเพลิงอีกหกคนและเจ้าหน้าที่พยาบาลอีกราวสิบคนก็มาร่วมภารกิจครั้งนี้เช่นกัน ทั้งหมดพยายามอยู่นานสองนาน หลากหลายวิธี ทั้งเอาเบาะลมสอดเข้าไปด้านล่างแล้วเป่าลม จะได้ช่วยยกตัวของเสี่ยวหวงขึ้น
แต่ด้วยความที่เขานั่งมานาน ทำให้ขาของเขาชาคนไม่สามารถขยับได้แล้ว ทำให้วิธีนี้ก็ล้มเหลวเช่นกัน
สุดท้ายพวกเขาใช้วิธีการเอาผ้ามารองด้านล่าง จากนั้นก็ใช้คน 20 คน ช่วยกันยกตัวเสี่ยวหวงขึ้นมาวางบนเตียงคนไข้ เพื่อพักขา หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็สามารถนั่งแท็กซี่กลับบ้านได้ในที่สุด โดยปฏิบัติการทั้งหมดใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง
แพทย์ที่ทำการรักษาเสี่ยวหวงกล่าวว่า ความอ้วนของเสี่ยวหวงเกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม และวิธีเดียวที่จะรักษาเขาได้คือการผ่าตัดเท่านั้น
หวังว่าเขาจะได้รับการช่วยเหลือเร็วๆ นี้นะฮะ ไม่อย่างชีวิตของเขาคงลำบากไปอีกนานแน่ๆ
ที่มา Shanghaiist
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.