หลังจากเมื่อปีที่ผ่านมาสำนักข่าว CNN ได้รายงานว่า ‘กรุงเทพมหานคร’ ถูกจัดอันดับโดยบริษัทเครื่องมือนำทางแบบจีพีเอสรายใหญ่ TomTom ให้เป็นเมืองที่มีการจราจรเลวร้ายและยุ่งเหยิงมากที่สุดในโลก
และล่าสุด INRIX Global Traffic Scorecard บริษัทที่ทำการวัดผลการจราจรจากทั่วโลกก็ได้ประกาศข้อมูลล่าสุดออกมาแล้วว่า ‘ประเทศไทย’ เป็นประเทศที่มีการจราจรติดขัดมากที่สุดในโลก
เพราะผู้คนเสียเวลากับรถติดบนถนนมากกว่า 61 ชั่วโมงต่อปี นอกจากนี้ผลสำรวจยังชี้ด้วยว่าแทบไม่มีทางที่จะกำจัดปัญหารถติดไปได้อย่างถาวร ซึ่งแต่ละรัฐบาลเองก็ต้องหามาตรการอื่นๆ มาเสริม เพื่อลดปัญหารถติดด้วย
.
INRIX นั้นเป็นองค์กรที่ตั้งอยู่ในเมือง Kirkland รัฐ Washington ซึ่งพวกเขาได้ทำการเก็บข้อมูลการจราจรจากทั่วโลกจากแหล่งข้อมูลออนไลน์จากกว่า 300 ล้านแหล่งข้อมูล และมีขนาดมากกว่า 500 Terabytes
ข้อมูลดังกล่าวประกอบไปด้วยเมืองกว่า 1,064 เมืองใน 38 ประเทศทั่วโลก ตลอดปี 2016 ทีผ่านมา
และนี่คือ 10 อันดับประเทศที่ผู้คนมีปัญหาจราจรติดขัดมากที่สุดในโลก!!
อันดับที่ 1 ประเทศไทย ผู้คนเสียเวลากับรถติดบนถนน 61 ชั่วโมงต่อปี
อันดับที่ 2 ประเทศโคลัมเบีย ผู้คนเสียเวลากับรถติดบนถนน 47 ชั่วโมงต่อปี
อันดับที่ 3 ประเทศอินโดนีเซีย ผู้คนเสียเวลากับรถติดบนถนน 47 ชั่วโมงต่อปี
อันดับที่ 4 ประเทศรัสเซีย ผู้คนเสียเวลากับรถติดบนถนน 42 ชั่วโมงต่อปี
อันดับที่ 5 ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้คนเสียเวลากับรถติดบนถนน 42 ชั่วโมงต่อปี
อันดับที่ 6 ประเทศเวเนซูเอล่า ผู้คนเสียเวลากับรถติดบนถนน 39 ชั่วโมงต่อปี
อันดับที่ 7 ประเทศแอฟริกาใต้ ผู้คนเสียเวลากับรถติดบนถนน 38 ชั่วโมงต่อปี
อันดับที่ 8 ประเทศบราซิล ผู้คนเสียเวลากับรถติดบนถนน 37 ชั่วโมงต่อปี
อันดับที่ 9 ประเทศเปอร์โต ริโก้ ผู้คนเสียเวลากับรถติดบนถนน 37 ชั่วโมงต่อปี
อันดับที่ 10 ประเทศตุรกี ผู้คนเสียเวลากับรถติดบนถนน 34 ชั่วโมงต่อปี
แต่ถ้าหากเจาะจงที่เฉพาะตัวเมืองอย่างเดียวปรากฏว่า นครลอสแองเจลลิสของประเทศสหรัฐอเมริกานั้นเป็นเมืองที่รถติดมากที่สุดในโลก
โดยที่ผู้คนเสียเวลาไปกับรถติดบนท้องถนนเฉลี่ยปีละ 104.1 ชั่วโมง ขณะที่กรุงเทพมหานครติดอันดับที่ 12 ผู้คนเสียเวลาไปกับรถติดเฉลี่ยปีละประมาณ 64.1 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตามทาง INRIX ก็ได้ระบุเอาไว้ว่าไม่มีมาตรการใดที่จะแก้ไขปัญหาได้อย่างถาวร เพราะแต่ละเมืองนั้นก็มีปัญหาเฉพาะเป็นของตัวเอง ส่วนใหญ่จะเกิดมาจากปัญหาถนนไม่เพียงพอหรือไม่สมดุลกับความต้องการใช้ถนน
ซึ่งการแก้ไขปัญหาเหล่านี้อาจจะต้องใช้วิธียืดหยุ่นอื่นๆ มาร่วมด้วยเช่น การปรับเวลาเข้าทำงานของหน่วยงานต่างๆ ส่งเสริมให้พนักงานทำงานอยู่ที่บ้าน หรือปรับปรุงเรื่องเส้นทางให้มีความหลากหลาย โดยเฉพาะการปรับขนส่งมวลชนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เป็นต้น
แหม่ จะว่าไปก็เสียเวลาไปบนท้องถนนเยอะเหมือนกันนะเนี่ย หากเปลี่ยนมาเป็นวิ่งเหยาะๆ จากบ้านไปที่ทำงานแล้วคงจะผอมน่าดู ฮร่าๆ
ที่มา : bangkokpost, inrix
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.