เทรนด์ใหม่กลุ่มแม่ม่ายจีน แห่ร่วม ‘ทำสมาธิในหลุมศพ’ สะเดาะเคราะห์หลังหย่าร้าง!!

จะว่าไปแล้วที่ประเทศจีนนี้ก็มักจะมีเทรนด์แปลกใหม่ มาทำให้เราตื่นตาตื่นใจอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์ถ่ายรูป เทรนด์แฟชั่น และอีกสารพัดสิ่งอย่างที่ช่างสรรหามาสร้างความนิยมกันได้อย่างไม่รู้จักคำว่าเบื่อ

ล่าสุดเว็บไซต์ OddityCentral ได้รายงานว่า เทรนด์ ‘ทำสมาธิในหลุมศพ’ กำลังเป็นที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ในกลุ่มแม่ม่ายชาวจีน โดยเชื่อว่าจะนำพามาซึ่งโชคลาภที่ดีหลังหย่าร้างได้!!

 

ลงไปนอนทำสมาธิกันในหลุมศพของจริง

 

การทำสมาธิในหลุมศพนี้ถูกคิดค้นขึ้นโดยแม่ม่ายสาวใหญ่วัย 30 ปี Liu Taijie หลังจากที่เธอหย่าร้างกับสามีในปี 2015 เธอจึงคิดได้ว่า หญิงสาวทุกคนที่ถูกหย่าร้างต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก

ทว่าชีวิตมันต้องเป็นไป…เธอจึงเริ่มต้นเทรนด์ดังกล่าว เพื่อสื่อให้ได้รู้ว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเราก็ควรจะทิ้งเรื่องร้ายๆ ไว้ข้างหลัง และเดินหน้าต่อไปด้วยความเข้มแข็ง

 

‘ฉันรู้ดีว่าผู้หญิงรู้สึกอย่างไร เมื่อถูกหย่าร้าง ฉันเคยผ่านช่วงเวลานั้นมา ซึ่งมันเศร้ามากซะจนฉันเคยคิดจะฆ่าตัวตายเลยก็ว่าได้’ Liu ให้สัมภาษณ์

 

ส่วนวิธีการนั้นก็เรียบง่ายมาก โดย Liu จะให้หญิงสาวทุกคนนอนราบอยู่บนหลุมศพโดยมีแผ่นพลาสติครองไว้ จากนั้นหญิงสาวจะต้องหลับตา พร้อมทั้งพนมมือแนบไว้กับอก เรียกง่ายๆ ว่าจัดท่าให้เหมือนคนตายนั่นแหละ

ถึงแม้จะไม่ได้ระบุว่าหญิงสาวจะต้องอยู่ในหลุมศพนั้นนานเท่าไหร่ แต่พวกเขาเชื่อว่าไอเดียนี้จะช่วยทำให้หญิงสาวที่เสียใจจากการหย่าร้าง รู้สึกเหมือนว่าตัวเองได้ตายไปแล้ว และพร้อมที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง

 

‘การนอนในหลุมฝังศพ จะทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนตัวเองตายไปแล้วจากความเศร้า ในขณะเดียวกันพวกเขาจะรู้สึกว่าชีวิตยังไม่ได้ทำอะไรอีกหลายอย่าง และพร้อมที่จะลุกขึ้นมาเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง’ Liu เล่าเสริม

 

ด้วยความที่ Liu ต้องต่อสู้กับความเศร้าอยู่นานหลายเดือน เธอจึงตัดสินใจที่จะใช้วิธีนี้ช่วยในการเยียวยาจิตใจให้กับหญิงสาวฟรีไม่คิดเงิน ซึ่งถ้ามีหญิงสาวคนใดติดต่อมาหาเธอ เธอก็พร้อมที่จะพามาทำพิธีสะเดาะเคราะห์ให้อย่างเต็มใจ

‘ความผิดพลาดในอดีตไม่ใช่เรื่องน่ากลัว สิ่งที่ฉันทำก็คือการช่วยให้ผู้หญิงที่ถูกสามีทิ้ง ได้กลับมามีชีวิตที่สดใสของตัวเองอีกครั้ง ผู้หญิงอย่างเราต้องสตรองคะ’

 

 

ว่าแต่สาวๆ ที่เพิ่งอกหักมีใครสนใจอยากจะลองเอาวิธีนี้ไปใช้ดูบ้างมั้ยเอ่ย? แต่ระวังผีไทยอาจจะดุกว่าผีจีนก็ได้น๊าาา

ที่มา: OddityCentral

Comments

Leave a Reply