กระแสการค้นพบ TRAPPIST-1 System นั้นเป็นที่จับตามองไปทั่วโลก ส่วนหนึ่งเพราะนี่คือการค้นพบระบบดวงดาวซึ่งใกล้เคียงกับระบบสุริยะของเรามาก และมันมีโอกาสอย่างสูงที่เราจะค้นพบดาวซึ่งมีสภาวะคล้ายโลกที่อยู่อาศัยได้ รวมถึงอาจจะเจอสิ่งมีชีวิตอยู่อีกด้วย
หลายคนอาจจะกำลังงๆ ว่าที่ค้นพบกันอยู่นี้มันคืออะไรกันแน่ และในคราวนี้ #เหมียวหง่าว อยากจะสรุปเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ เพื่อมาให้ได้อ่านกันแบบเข้าใจง่ายๆ กันครับ…
1. ระบบดาวเคราะห์ที่ค้นพบนี้มีชื่อว่า TRAPPIST-1 System ที่มีดาวฤกษ์เพียงดวงเดียว มีความคล้ายคลึงกันกับระบบสุริยจักรวาลของเรามาก จึงทำให้กลายเป็นประเด็นที่พูดถึงเป็นวงกว้าง
2. การเรียกชื่อ TRAPPIST-1 System ก็เหมือนกับการเรียกชื่อ Solar System โดยใช้ดาวฤกษ์ที่อยู่ตรงจุดศูนย์กลางเป็นชื่อของระบบดาวเคราะห์
3. ชื่อ TRAPPIST-1 ถูกตั้งตามชื่อของกล้องโทรทัศน์ที่ตั้งอยู่ใน Atacama Desert ประเทศชิลี ที่นักดาราศาสตร์ใช้ส่องพบเจ้าดาวฤกษ์ดวงดังกล่าว
4. ระบบดาวเคราะห์นี้มีดาวเคราะห์ทั้งหมด 7 ดวงด้วยกัน ซึ่งแต่ละดวงจะมีขนาดพอๆ กับดาวศุกร์
5. เมื่อเทียบกับขนาดของดาวเคราะห์ในระบบ TRAPPIST-1 System และดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ
จะเห็นได้ว่าแม้จะมีขนาดพอๆ กันกับโลก แต่ระยะเวลาโคจรรอบดาวแคระศูนย์กลางนั้นกลับสั้นมาก แค่ราวๆ 1 วันครึ่ง ถึงมากที่สุดก็ราวๆ 20 วันเท่านั้น
6. จากการสำรวจแล้วก็พบว่าดาวฤกษ์ TRAPPIST-1 มีขนาดเล็กมากกว่าดวงอาทิตย์มาก
ประมาณว่าถ้าเปรียบดวงอาทิตย์เป็นลูกบาสเก็ตบอล ดาว Trappist ก็จะมีขนาดเท่ากับลูกกอล์ฟ นั่นทำให้แม้ดาวเคราะห์ทั้ง 7 จะอยู่ใกล้จุดศูนย์กลางกว่าโลกกับดวงอาทิตย์ แต่ก็ไม่ได้ร้อนจนโดนแผดเผา เพราะขนาดของดาว TRAPPIST-1 ที่เล็กนั่นเอง
7. ภาพแสดงจุดที่ตั้งระหว่างโลกและระบบ TRAPPIST-1 System ซึ่งทั้งสองต่างอยู่ในกาแล็คซี่ทางช้างเผือก
8. ดาวฤกษ์ TRAPPIST-1 อยู่ห่างจากโลกเป็นระยะทาง 39 ปีแสง คิดเป็นหน่วยไมล์ ก็ประมาณ 235 ล้านล้านไมล์ หรือประมาณ 376 ล้านล้านกิโลมตร
เทียบกับดาวอังคารที่อยู่ห่างจากโลกประมาณ 22,526 กิโลเมตร แล้วถือว่ามากกว่าเป็นจำนวน 17,000 ล้านเท่าเลยทีเดียว
9. การเดินทางจากโลกไปยังดาวอังคารใช้ระยะเวลาประมาณ 10 เดือน (ยานอวกาศ Maven ออกเดินทางไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2016 เดินทางถึงดาวอังคารและเข้าสู่วงโคจรของดาวอังคารในเดือนกันยายน 2557)
และถ้าจะเดินทางด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันต้องเดินทางจากโลกไปยัง TRAPPIST-1 จะต้องใช้เวลาราวๆ 1 ล้านปีหรือมากกว่านั้นอย่างแน่นอน
10. แม้จะมีการคาดการณ์ว่าแม้มนุษย์จะสามารถไปตั้งรกรากอยู่บนดาวเคราะห์ในระบบ TRAPPIST-1 System ได้ แต่การเดินทางไปถึงนั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย
อย่างน้อยด้วยเทคโนโลยีปัจจุบัน มนุษย์ก็แทบไม่สามารถเดินทางไปตั้งรกรากที่แห่งนั้นได้
11. กระทั่งความคิดที่จะใช้หุ่นยนต์ไปสำรวจ ก็ยังไกลเกินเอื้อม
ด็อคเตอร์ Triaud กล่าวว่า “เทคโนโลยีปัจจุบันก็ยังคงห่างไกลกับการส่งหุ่นหรือยานอวกาศไปตรงจุดนั้น ส่วนโอกาสที่มนุษย์จะอยู่รอดในการเดินทางอวกาศไกลนับแสนปี ก็ไม่มีใครรู้เลยว่าจะทำได้หรือไม่”
12. นักวิทยาศาสตร์คาดว่าดาวเคราะห์ 3 ใน 7 ดวงนี้คือ 1e, 1f และ 1g จะมีของเหลวหรือกระทั่งมีน้ำอยู่บนดาว เนื่องจากมีสภาวะเหมาะสมที่สุดที่จะมีมหาสมุทรอยู่บนพื้นผิวดาว
พวกเขายังคาดการณ์ว่าอาจจะมีสิ่งมีชีวิตอยู่ในมหาสมุทรของดวงดาวเหล่านั้นแล้ว แม้โอกาสจะน้อยมากก็ตาม
13. ภาพจินตนาการของดาวเคราะห์ 1f ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ NASA ลงความเห็นว่าเหมาะสมที่สุดกับการจะค้นพบสิ่งมีชีวิตบนพื้นผิวดาวเคราะห์ดวงดังกล่าว
หวังว่าอย่างน้อยบทความนี้จะช่วยให้ทุกคนพอเข้าใจเรื่องที่ค้นพบใหม่ และเปิดหูเปิดตากันมากขึ้นนะคร้าบ ไม่แน่ว่าในอนาคต เราอาจจะได้เจอการค้นพบอันยิ่งใหญ่กว่านี้รออยู่อีกก็เป็นได้…
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.