เปิดพาดหัวมาหลายคนอาจจะถึงกับงงแตกว่า ‘MIT’ คืออะไร? ซึ่งมันก็คือ สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ สถาบันที่ถูกจัดให้เป็นอันดับ 1 ในเรื่องของเทคโนโลยีตามชื่อของเขานั่นแหละ
และล่าสุดทางสถาบันได้ออกมาเผยถึง 10 อันดับนวัตกรรมที่จะเข้ามามีประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ ทั้งด้านการแพทย์ หรือเชิงเศรษฐกิจ เอาเป็นว่าเราตามไปดูกันเลยว่าปีนี้จะมีนวัตกรรมล้ำๆ อะไรที่น่าสนใจบ้าง…
1. การรักษาผู้ป่วยอัมพาต
ล่าสุดนักวิจัยสามารถทดลองฝังชิพตัวอ่านลงบนสมองของผู้ป่วยอัมพาต จากนั้นมันจะทำการส่งสัญญาณคลื่นสมองไปยังตัวรับที่กระดูกไขสันหลัง จุดไคลแม็กซ์คือตัวรับนี่แหละ ที่มันจะส่งกระแสไฟฟ้ากลับไปกระตุ้นกล้ามเนื้อของผู้ป่วย ให้สามารถกลับมาขยับได้อีกครั้ง
ถึงแม้ว่าตอนนี้เทคโนโลยีนี้จะยังอยู่ในขั้นตอนการทดสอบ แต่คาดว่าภายในอีก 5 ปี ถึง 10 ปี เทคโนโลยีชิ้นนี้จะถูกนำมารักษาผู้ป่วยอัมพาตทั่วโลก
2. รถบรรทุกแบบไร้คนขับ
นับว่าเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่จะส่งผลกระทบเป็นอย่างมากในวงการลอจิสติคทั้งหลาย ลองคิดดูสิว่าอีกหน่อยในอนาคตเราจะได้เจอกับรถบรรทุกที่ไม่มีคนขับ โดยเชื่อว่าจะช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้อีกทางหนึ่งด้วยแหละ
3. ระบบจ่ายเงินผ่านใบหน้า
เทคโนโลยีดังกล่าวเริ่มเปิดใช้งานบ้างแล้วส่วนหนึ่งในจีน ซึ่งเป็นระบบที่จะช่วยทำให้เราจ่ายเงินได้โดยไม่จำเป็นต้องพกเงินสด หรือบัตรเครดิตให้วุ่นวายอีกต่อไป
นอกจากจะจ่ายเงินด้วยการสแกนใบหน้าได้แล้ว เทคโนโลยีตัวนี้ยังถูกนำเอามาใช้ในการตามจับคนร้ายได้อีกด้วยนะ แหม่..เมื่อไหร่ที่ไทยจะมีแบบนี้บ้าง ทุกวันนี้พกกระเป๋าสตางค์แล้วรู้สึกไม่ปลอดภัยเอาซะเลย
4. คอมพิวเตอร์ควอนตัม
ก่อนหน้านี้ใครที่ติดตามข่าวคราววงการคอมพิวเตอร์ คงทราบดีว่าบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Google หรือแม้แต่ Intel ก็ได้ลงทุนงานวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง
หลายคนที่เพิ่งเคยได้ยินชื่ออาจจะงงว่ามันคืออะไร? ซึ่งมันก็คือระบบคอมพิวเตอร์ที่นำเอาหลักฟิสิกซ์ควอนตัมมาใช้ในการประเมินผลนั่นเอง ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็อย่างที่รู้กันนั่นแหละว่ามันจะเสถียรกว่าเดิม เร็วกว่าเดิม และประมวลผลได้ไวกว่าเดิมหลายเท่า
5. กล้องเซลฟี่ 360 องศา
ใครที่ชอบถ่ายเซลฟี่นวัตกรรมชิ้นนี้คงถูกใจสุดๆ เพราะนี่คือกล้องเซลฟี่ที่มาในรูปแบบทรงกลม สามารถถ่ายภาพได้ 360 องศา นอกจากนั้นผู้ผลิตยังเคลมว่า จะวางขายในราคาที่ทุกคนจ่ายไหว และวัฒนธรรมการถ่ายเซลฟี่อาจจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล
6. โซล่าร์เซลล์กักเก็บความร้อน
ปกติแล้วเทคโนโลยีโซล่าร์เซลล์ คือการนำเอาพลังงานความร้อนจากแสงอาทิตย์มาใช้ แต่คราวนี้มันมาในรูปแบบที่แอดว๊านซ์กว่าเดิม
เพราะนอกจากจะเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ไปเป็นพลังงานความร้อนแล้ว มันยังสามารถกักเก็บพลังงานความร้อนดังกล่าว ให้อยู่ในรูปแบบพลังงานแสงอาทิตย์อยู่ในสเป็กตรัมที่ถูกออกแบบขึ้นมาเท่ากับว่าตอนนี้มนุษย์เราค้นพบเทคโนโลยีโซล่าร์เซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าแบบเดิมแล้วนะ
7. การแก้ยีนเพื่อรักษาโรคทางพันธุกรรม (Gene Therapy 2.0)
จริงอยู่ที่ในวงการแพทย์ค้นพบการรักษาโรคทางพันธุกรรม ผ่านการแก้ไขยีนมานานนมแล้ว แต่ก็ต้องเจอกับอุปสรรคหลายอย่าง
และตอนนี้นวัตกรรมการแก้ยีนดังกล่าว สามารถนำมาใช้รักษาโรคทางพันธุกรรมได้แล้ว ซึ่งในอนาคตเราอาจจะได้เห็นการแก้ยีนนี้ เข้ามาช่วยรักษาโรคมะเร็ง โรคหัวใจ หรืออีกสารพัดโรคที่ส่งต่อผ่านทางพันธุกรรมได้นั่นเอง
8. แผนที่เซลล์
อีกหนึ่งโปรเจคระดับยักษ์ที่เกิดจากการร่วมมือของหลายสถาบันชั้นนำทั่วโลก ซึ่งตอนนี้พวกเขาก็ได้รวบรวมข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวกับเซลล์ในร่างกายของเรา ต่อจากนี้เราจะได้รู้กันสักทีว่าจริงๆ แล้วร่างกายเราถูกสร้างมาจากอะไรกันแน่?
9. Botnets of Things
ในยุคที่อุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ล้วนเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต จริงอยู่ที่มันอาจจะง่ายต่อการใช้สอย ทว่าสิ่งหนึ่งที่ตามมาด้วยก็คือการแฮกข้อมูลที่เรามักจะได้เห็นกันบ่อยๆ (โดยเฉพาะเว็บไซต์ราชการบ้านเราเป็นตัวอย่าง) Botnets จึงเป็นอีกเทคโนโลยีล้ำๆ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยขจัดปัญหาดังกล่าวในระดับครัวเรือนได้เป็นอย่างดี
10. การเรียนรู้จากการทำซ้ำของปัญญาประดิษฐ์ (A.I.)
ถ้าพูดถึงข่าวที่มาแรงสุดๆ ในวงการเทคโนโลยีทั่วโลกละก็ คงต้องยกให้กับนวัตกรรมของปัญญาประดิษฐ์ ที่ดูเหมือนว่าภาพจากในหนังอย่าง คนเหล็ก หรือ I-Robot มันจะกลายเป็นความจริงขึ้นมาทุกที
โดยทีมนักวิจัยได้ค้นพบแล้วว่า ปัญญาประดิษฐ์ที่มนุษย์สร้างขึ้นสามารถเรียนรู้ผ่านการกระทำซ้ำๆ เดิมๆ ได้!! ซึ่งก่อนหน้านี้หลายคนคงได้เห็นระบบ A.I. สามารถเล่นโกะจนชนะแชมป์โลกมาได้แล้ว ซึ่งมันก็เกิดจากการเรียนรู้ซ้ำๆ นี่แหละ
แต่จะว่าไปข้อดีของเรื่องนี้ก็มีเหมือนกัน เพราะการที่คอมพิวเตอร์สามารถเรียนรู้อะไรได้ด้วยตนเอง อาจจะทำให้มนุษย์เราได้มาซึ่งผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดมาก่อนก็เป็นได้…
ดูเหมือนโลกเราทุกวันนี้จะพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดดเอามากๆ และนี่ก็เป็น 10 นวัตกรรมที่ควรรู้ไว้นะจ๊ะ ไม่งั้นระวังจะคุยกับเค้าไม่รู้เรื่อง…!!!
ที่มา: technologyreview
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.