เชื่อว่าประเพณีเก่าแก่ของชาวอินโดนีเซียที่เราเอามาเล่าสู่กันฟังนี้ อาจทำให้คนที่เคยถูกหักอกเพราะคนรักแอบไปเล่นชู้ ต้องเห็นดีเห็นงามด้วยแน่ๆ
ก่อนอื่นขอเล่าก่อนว่าที่ประเทศอินโดนีเซีย ประชากรส่วนใหญ่จะนับถือศาสนาอิสลามเป็นหลัก และตามกฏหมายของอิสลาม (ชะรีอะห์) ห้ามชายหญิงมีอะไรกัน หากพวกเขาไม่ได้แต่งงานตามประเพณีอย่างถูกต้อง
และอาเจะฮ์ก็เป็นเพียงจังหวัดเดียวในประเทศ ที่มีการบังคับใช้กฏหมายของอิสลามอย่างเต็มรูปแบบ จึงทำให้ที่นี่ยังคงไว้ซึ่งประเพณีการเฆี่ยนตีชายหญิงที่แอบเล่นชู้จนถึงกับสลบ!!
ชายผู้ถูกลงโทษ
ที่จังหวัดอาเจะฮ์ จะมีศาลทางศาสนาคอยกำกับดูแลเรื่องพวกนี้อยู่ โดยสำนักข่าว Dailymail ได้เล่าว่าชายหนุ่มคนดังกล่าวถูกจับได้ในข้อหา ‘แอบอยู่กับเพศตรงข้ามในที่ลับตาคนยามวิกาล’ เขาถูกศาลตัดสินให้โดนเฆี่ยน 22 ครั้ง
ชายหนุ่มในรูปถูกเฆี่ยนไป 14 ครั้งจนเขาไม่สามารถต้านทานความเจ็บปวด และสลบไปในที่สุด แต่ก็ใช่ว่าโทษจะจบเพราะการลงโทษจะมีทีมแพทย์คอยเฝ้าดูอาการของคนถูกเฆี่ยนเสมอ โดยแพทย์ได้วินิจฉัยว่าร่างกายของเขายังไหวอยู่ ถึงจะสลบไปแล้วแต่สุดท้ายเขาก็ต้องถูกนำตัวขึ้นไปเฆี่ยนตีต่อให้ครบ 22 ครั้ง
ไม่ใช่แค่เรื่องการแอบไปมาหาสู่กันอย่างลับๆ เท่านั้นที่มีโทษรุนแรง เพราะที่นี่ทุกคนจะถูกสั่งห้ามยุ่งเกี่ยวการพนัน ดื่มแอลกอฮอล์ หรือแม้แต่รักร่วมเพศ
ซึ่งที่อาเจะฮ์นี้ถูกปกครองโดยกฏหมายอิสลามอย่างเต็มรูปแบบ มาตั้งแต่ช่วงปี 2001 โน้นแล้วล่ะ ซึ่งทางรัฐบาลอินโดฯ ได้จัดให้ที่นี่เป็นเหมือนเขตการปกครองพิเศษ พวกเขาจึงมีศาล กฏหมาย และกระบวนการลงโทษตามศาสนาอิสลามอย่างเต็มรูปแบบ
หญิงสาวอีกคนที่ถูกทำโทษท่ามกลางฝูงชน
ย้อนกลับไปในเมื่อปี 2014 ศาลศาสนาของอาเจะฮ์ เคยออกกฏห้ามให้มีการประพฤติตัวส่อไปทางรักร่วมเพศ ถ้าใครถูกจับได้จะโดนเฆี่ยน 100 ที จำคุก 100 เดือน และปรับด้วยทองอีก 1,000 กรัม ถือว่าบทลงโทษโหดม๊ากก!!
และการลงโทษในแต่ละครั้ง ผู้ทำผิดกฏจะถูกลงโทษท่ามกลางสายตาประชาชี รวมทั้งมีการถ่ายภาพข่าวกันอย่างเป็นเรื่องเป็นราว
เป็นวิธีการลงโทษที่โหดสัสมาก ใครชอบเจ้าชู้ต้องดูเอาไว้ให้ดีนะจ๊ะ
ที่มา: Dailymail
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.