ญี่ปุ่นสร้าง ‘หุ่นยนต์สอนปิงปอง’ ตัวแรกของโลก ช่วยวิเคราะห์ผู้เล่นเพื่อพัฒนาทักษะ!!

ในการเล่นปิงปองนั้นจำเป็นต้องมีผู้เล่นตั้งแต่ 2 ขึ้นไป เพื่อทำหน้าเป็นคนส่งและคนรับ และแน่นอนว่า การเล่นเป็นคู่นี้จะทำให้ผู้เล่นได้เรียนรู้เทคนิคจากฝ่ายตรงข้ามด้วย

แต่ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องมีผู้เล่นถึง 2 คนก็ได้ เพราะทาง Omron ซึ่งเป็นบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ของญี่ปุ่นได้มีการผลิตหุ่นยนต์ปิงปองออกมาแล้ว เพื่อให้เป็นครูฝึกสำหรับคนอยากพัฒนาทักษะการเล่นปิงปอง

สำหรับหุ่นยนต์ปิงปองนี้ได้รับการยอมรับจาก Guinness World Records ในฐานะเป็นหุ่นยนต์สอนปิงปองตัวแรกของโลก

 

 

FORPHEUS (Future Omron Robotics Technology for Exploring Possibility of Harmonized Automation with Sinic Theoretics) เป็นหุ่นยนต์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อประเมินทักษะการเล่นของมนุษย์และช่วยให้เหล่านักกีฬาได้รู้จุดด้อยของตัวเองที่ต้องการปรับปรุง

หุ่นยนต์ปิงปองเปิดตัวครั้งแรกที่งานแสดงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ Ceatec ในประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี 2557 และตั้งแต่นั้นมานักพัฒนาซอฟต์แวร์ Taku Oya ก็ได้มีการพัฒนาทักษะต่างๆ ลงไปในหุ่นยนต์ตัวนี้มากขึ้นเรื่อยๆ

 

 

คุณสมบัติพิเศษของหุ่นยนต์ปิงปองนี้ มันสามารถวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของผู้เล่น ความเร็วของลูกปิงปอง และสามารถกำหนดระดับของผู้เล่นได้ ซึ่งมีความแม่นยำถึง 90%

นอกจากนี้มันยังสามารถรับมือกับกลุ่มผู้เล่นที่หลากหลาย เริ่มตั้งแต่คนที่เพิ่งหัดเล่น หุ่นยนต์จะปรับตัวให้ช้าลงเพื่อให้เหมาะสมกับผู้ที่หัดเล่น แต่สำหรับผู้เล่นที่มีฝีมืออยู่แลัวหุ่นยนต์ก็จะปรับการเล่นให้อยู่ในระดับสูงเช่นกัน

 

 

FORPHEUS จะมีกล้องสำหรับตรวจจับภาพสองตัว ตัวหนึ่งสำหรับจับการเคลื่อนไหวของผู้เล่น และอีกตัวสำหรับตรวจจับการเคลื่อนไหวของลูกปิงปอง สามารถวิเคราะห์การตกของลูกปิงปองได้ 1,000 ครั้งต่อวินาที

ทั้งนี้บนหน้าจอของหุ่นยนต์นั้นจะมีตัวหนังสือที่วิเคราะห์ทักษะของผู้เล่น เช่น “เก่งมาก” หรือ “พัฒนาขึ้นอีก” เพื่อเป็นการกระตุ้นผู้เล่นนั่นเอง

 

 

Taku Oya บอกว่า “ตอนนี้เราใส่โปรแกรมให้หุ่นยนต์สอนมนุษย์ แต่ในอีก 20 ปีข้างหน้า หุ่นยนต์อาจจะสอนหุ่นยนต์ หรือหุ่นยนต์อาจจะสอนการพัฒนาหุ่นยนต์อีกทีก็เป็นได้”

มันอาจจะฟังดูเลื่อนลอย แต่ก็สอดคล้องกับสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เชื่อว่า ในอนาคตจะเกิดปัญญาประดิษฐ์เนื่องจากจะมีความก้าวหน้ามากขึ้น

 

 

เออ น่าสนนะ มีทั้งคู่เล่นแถมยังได้พัฒนาฝีมือด้วย

ที่มา odditycentral

Comments

Leave a Reply