รู้มั้ยว่าในทุกๆ ปีมีสัตว์ที่ถูกลับลอบขายแบบผิดกฎหมายทั่วโลก ทาง TRAFFIC ซึ่งเป็นองค์กรที่ติดตามการค้าสัตว์ป่าคาดว่า การลักลอบค้าสัตว์จะขยายตัวไม่ต่างจากเครือข่ายยาเสพติดเลย
World Wide Fund Nature (WWF) ได้ประกาศให้การค้าสัตว์ผิดกฎหมายนี้เป็นภัยที่ร้ายแรงที่สุดเป็นอันดับสองรองจากการคุกคามที่อยู่อาศัย
สัตว์สายพันธุ์ที่หายากมักจะตกเป็นเหยื่อ เพราะลูกค้าจะเสนอราคาค่อนข้างสูง โดยส่วนใหญ่จะลักลอบขายข้ามประเทศทำให้สัตว์จำนวนมากตายระหว่างการขนส่ง
และเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2017 เกิดการลักลอบค้าสัตว์ป่าในประเทศลาว โดยเจ้าหน้าที่รัฐได้ติดต่อศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าลาว เพื่อให้มารับของที่อยู่ในกล่องขนาดใหญ่ ซึ่งเจ้าหน้าที่สกัดจับได้จากการลักลอบขายข้ามประเทศ
และเมื่ออาสาสมัครไปถึงก็พบเป็นลูกชะนีเผือก คาดว่าน่าจะอายุประมาณ 1 ปี พวกเขาจึงได้นำตัวมันไปส่งให้กับสัตว์แพทย์ตรวจร่างกาย และก็พบว่ามันมีสุขภาพแข็งแรงดี
ต่อมาพวกเขาได้ตั้งชื่อให้ชะนีน้อยว่า Ee Ooo เพราะมันมักจะทำเสียงแบบนี้ และโชคดีที่มีชะนีอีก 5 ตัวอยู่ที่ศูนย์ทำให้ Ee Ooo ไม่โดดเดี่ยว
อาสาสมัครได้ห่มผ้าให้มันและป้อนนมให้มันด้วย เพื่อให้มันเติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแรง และจะได้ปล่อยให้มันกลับไปใช้ชีวิตในธรรมชาติเช่นเดิม
ก่อนหน้านี้เคยมีการพบชะนีเผือกในประเทศจีน เวียดนามและลาว แต่ตอนนี้มันได้สูญพันธุ์ไปจากจีนแล้วตั้งแต่ปี 2008
และตามการรายงานของ National Geographic พบว่าชะนีเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ถูกคุกคามมากที่สุดในโลก ทำให้พวกมันมีจำนวนลดลงอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้พวกมันจะถูกนำไปขายเพื่อเป็นสัตว์เลี้ยงที่สร้างความบันเทิงให้กับนักท่องเที่ยว นอกจากนี้พวกมันยังถูกฆ่าเพื่อนำชิ้นส่วนไปทำยาแผนโบราณด้วย
Kanitha Krishnasamy เจ้าหน้าที่จาก TRAFFIC บอกว่า “ปัจจุบันประเทศลาวขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการลักลอบค้าสัตว์มาที่สุดในเอเชีย ดังนั้นรัฐบาลจึงจำเป็นต้องแก้ปัญหานี้อย่างเร่งด่วน “
สำหรับประเทศลาวไม่เพียงแต่ลักลอบขนชะนีเท่านั้น แต่มีการจับวังโนน นกเงือกหัวขวาน แรด ช้างและสัตว์ป่าอื่นๆ อีกมากมาย อย่างไรก็ตามในปี 2012 ลาวได้มีการดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าสัตว์ป่าอย่างจริงจังแล้ว
ตอนนี้ทาง LWRC กำลังจะทำพื้นที่สำหรับ Ee Ooo เพื่อให้มันได้ฝึกปีนป่ายเหมือนกับชะนีทั่วไป และพวกเขาเชื่อว่า พ่อแม่ของมันคงถูกฆ่าไปแล้วจนทำให้มันถูกจับตัวมาเช่นนี้
เพราะโดยปกติแล้ว ชะนีจะอยู่กับพ่อแม่จนกว่าจะอายุประมาณ 6 ขวบ หรือพร้อมที่จะหาคู่ และพวกมันจะมีอายุเฉลี่ยประมาณ 25 ปี หากอาศัยอยู่ในป่าตามธรรมชาติของมัน
Ee Ooo กำลังอยู่ในช่วงที่ฟื้นฟูร่างกาย และเมื่อมันแข็งแรงพอแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จะพามันไปปล่อยในป่าที่มีความปลอดภัย
และยังคงต้องมีการเฝ้าระวังต่อไป เพราะมีการกำหนดกฎหมายเกี่ยวกับการค้าสัตว์ป่าแล้ว จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาขบวนการนี้ยังมีการดำเนินอย่างต่อเนื่องโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายเลย
นอกจากหน่วยงานและองค์กรแล้ว เราในฐานะประชาชนคนหนึ่งก็ควรเป็นส่วนหนึ่งการช่วยสอดส่องดูแลและแจ้งเบาะแสให้กับเจ้าให้ดำเนินการต่อไป เพื่อไม่ได้ให้สัตว์ป่าต้องตกเป็นเหยื่อเหมือนเจ้า Ee Ooo อีก
.
.
.
.
.
.
.
.
ยิ่งสัตว์ที่หายากมากเท่าไร ก็ยิ่งต้องได้รับการอนุรักษ์นะ
ที่มา lifebuzz
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.