การค้นพบหลักฐานในประวัติศาสาต์มักมีความสำคัญกับคนในยุคปัจจุบันเสมอ เพราะมันทำให้คนสมัยใหม่ได้เรียนรู้เรื่องราวในอดีตผ่านหลักฐานเหล่านั้น
เช่นเดียวกับการค้นพบนี้ ซึ่งเป็นอุโมงค์ใต้ดินซึ่งเต็มไปด้วยงานศิลปะที่สะท้อนให้เห็นวิถีชีวิตของคนในอดีต จนบางเรื่องก็ถือเป็นหลักฐานชิ้นใหม่เลยก็ว่าได้
เมื่อไม่นานมานี้กลุ่ม ISIS ได้ระเบิดสถานที่ต่างๆ นับไม่ถ้วน และหนึ่งในนั้นคือสุสาน Nabi Yunus จังหวัด Nineveh ในประเทศอิรัก
ต่อมาเมื่อสงครามสงบลง หน่วยรักษาความปลอดภัย Mosul ก็ได้มีการเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย จนได้พบกับสิ่งที่น่าทึ่ง
สิ่งที่ว่านี้คือ อุโมงค์ใต้ดิน ซึ่งอยู่ภายใต้สุสาน Nabi Yunus โดยภายในอุโมงค์นั้นเต็มไปด้วยสิ่งประดิษฐ์ ข้าวของเครื่องใช้ ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 3,000 ปีที่แล้ว
Layla Salih ผู้รับผิดชอบโบราณวัตถุในจังหวัด Nineveh บอกว่า “จริงๆ แล้วหากมีอุโมงค์อยู่ใต้ดินเช่นนี้ มันมีโอกาสที่จะยุบลงได้ทุกเมื่อ แต่น่าแปลกที่อุโมงค์นี้อยู่ได้นานขนาดนี้”
เธอยังบอกอีกว่า “สำหรับวัตถุโปราณที่พบนี้ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นสิ่งของที่ถูกสร้างขึ้นมาในยุค Assyrian และมาจากพระราชวังของกษัตริย์ Esarhaddon ซึ่งปกครองเมืองในช่วง 681-669 ปีก่อนคริสต์ศักราช”
สำหรับอุโมงค์นี้คงไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อหลบภัย แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นพระราชวังที่มีอายุ 2,600 ปี ที่ถูกฝังอยู่ในใต้ดินนี้ และได้มีสภาพเสื่อมโทรมลงไปจนมีสภาพคล้ายอุโมงค์
นอกจากนี้ยังพบภาพศิลปะที่ผนังอุโมงค์ ที่เป็นการสะท้อนถึงศิลปะของ Assyrian ในอดีต และแน่นอนว่ามันเป็นการบ่งบอกถึงวิถีชีวิตในอดีตด้วย
Layla เชื่อว่ากลุ่ม ISIS ได้เจออุโมงค์นี้แล้ว แต่พวกเขาไม่เอาโบราณวัตถุไปเพราะเกรงว่าอุโมงค์ถล่มลงมา ทั้งนี้พบว่ามีของชิ้นเล็กๆ หายไปบางส่วน เช่นพวกเครื่องปั้นดินเผา จึงคาดว่ากลุ่มผู้ก่อการร้ายคงขโมยไป
ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่อิรักพบเครื่องปั้นดินเผาจำนวน 107 ชิ้น ในบ้านที่อยู่ทางตะวันออกของเมือง Mosul และทุกชิ้นก็ยังอยู่ในสภาพดี ซึ่งก็น่าจะมาจากอุโมงค์ใน Nabi Yunus นี่เหมือนกัน
Salim Khalaf เจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรมอิรักกล่าวเพิ่มเติมว่า “ตอนนี้มีวัตถุโบราณกว่า 700 ชิ้นที่ถูกขโมยตามโบราณสถานต่างๆ และกำลังปล่อยขายผ่านเว็บไซต์และตลาดมืด”
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ทางอิรักกำลังรณรงค์ให้ยึดวัตถุโบราณทุกชิ้นที่ถูกลักลอบข้ามดินแดนอิรัก-ซีเรีย เนื่องจากเป็นสมบัติของแผ่นดิน และควรอยู่ในการดูแลของหน่วยงานที่รับผิดชอบวัตถุโบราณของประเทศ
.
.
.
.
ถือเป็นการค้นพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญมากๆ อย่างหนึ่งเลยนะ
ที่มา thesun
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.