ก่อนจะมาเป็น Sylvester Stallone ได้อย่างทุกวันนี้ กว่าจะมาเป็นร็อคกี้ที่ทุกคนรู้จัก รู้หรือไม่ว่าเขาเคยตกอับมากถึงขนาดที่ต้องยอมขายสุนัขตัวโปรดให้กับคนอื่นเพื่อที่จะได้มีข้าวกินเลยทีเดียว
เรื่องนี้มันเกิดขึ้นในช่วงที่เขายังไม่ได้เข้าวงการ เขาเป็นแค่ชายทั่วไปที่เดินอยู่บนท้องถนนเร่ร่อนไปทั่วกับสุนัขของเขาในมหานครนิวยอร์ค
ถึงแม้ว่าเขารักสุนัขของเขามากเพียงใด แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อถึงจุดที่ตกอับที่สุด เขาก็จำเป็นจะต้องขายสุนัขของเขา ให้กับชายแปลกหน้าในบาร์คนหนึ่งด้วยราคาเพียง 25 เหรียญเท่านั้น (ราวๆ 860 บาท) เพื่อแลกกับเงินไปซื้ออาหารประทังชีวิต
เขาจมกับความเสียใจในการตัดสินใจนั้น แต่ว่าหลังจากเหตุการณ์นั้นได้ไม่นาน เขาได้มีโอกาสดูเทปบันทึกการชกมวยของ Mohammed Ali และ Chuck Wepner ซึ่งมันจุดประกายอะไรบางอย่างในตัวเขา
นั่นทำให้เขาลุกขึ้นมาเขียนบทภาพยนตร์ แถมยังรวมเดียวเสร็จในเวลา 20 ชั่วโมงอีกด้วย โดยเรื่องที่เขาเขียนก็คือ Rocky นั่นเอง
Sylvester ได้นำบทที่เขาเขียนจนเสร็จไปเสนอกับค่ายภาพยนตร์ และทางค่ายก็ดูเหมือนจะชอบและสนใจมากๆ ถึงกับเสนอเงินให้กับค่าบทถึง 150,000 เหรียญ (ราวๆ 5 ล้านบาท) เพื่อนำไปสร้างจริง
แต่เขายื่นเงื่อนไขที่ทำให้ค่ายหนังคิดหนักก็คือ เขาจะต้องเล่นเป็นตัวเอกของเรื่องที่เขียนขึ้นมานี้เอง แน่นอนว่าทางค่ายย่อมปฏิเสธในทันที ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาดูไม่มีมาดพระเอก และหน้าตาตลกเกินไป
แต่พวกเขายังไม่ตัดใจจากบทหรอกนะ เพราะพวกเขายังคงเสนอซื้อบทในราคาที่สูงขึ้นจนถึง 350,000 เหรียญ (ราวๆ 12 ล้านบาท)
แต่ Sylvester ก็ยังปฏิเสธอยุ่ดีพร้อมยืนกรานว่าถ้าเขาไม่ได้เล่นเอง เขาจะไม่ยอมขายบทนี้ให้อย่างแน่นอน จนท้ายที่สุดทางค่ายหนังก็ยอมรับข้อเสนอให้เขาเล่น แต่ว่าค่าบทจะเหลือเพียงแค่ 35,000 เหรียญเท่านั้น (ราวๆ 1.2 ล้านบาท)
ในยุคนั้นถือว่ามันเป็นเงินก้อนโตสำหรับคนทั่วไป แต่ว่าเงินก้อนแรกที่เขาได้ เขาไม่ได้เอาไปใช้ฟุ่มเฟือยอะไรแต่อย่างใด เขารีบกลับไปบาร์ที่เดิมเพื่อรอผมชายคนเดิมที่เขาขายสุนัขของเขาไป
เขาใช้เวลากว่า 3 วันจึงจะเจอกับชายคนนั้น และเขายื่นข้อเสนอขอซื้อหมาของเขาคืน ชายคนนั้นก็ไม่ยอมขายคืนให้ จนกระทั่งเขาต้องเพิ่มเงินขึ้นเรื่อยๆ
และสุดท้ายถึงกับยอมยื่นข้อเสนอให้กับชายคนนั้นเป็นเงิน 15,000 เหรียญ (ราวๆ 500,000 บาท) เพื่อแลกกับสุนัขของเขาที่ขายเมื่อตอนแรก
จริงๆ แล้วเรื่องของเขา สุนัขเป็นหนึ่งในองค์ประกอบเท่านั้น แต่หัวใจจริงๆ ของเรื่องก็คือถ้าเขาไม่อดทนที่และทิ้งฝันที่จะแสดงเองไป รับเงินค่าบทก้อนโดตมา อนาคตการเป็นนักแสดงของเขาก็จะไม่เริ่มขึ้นและจบลงตรงนั้น
แต่เขายอมอดทนที่จะรอโอกาสนั้นไม่ยอมทิ้งฝันที่จะเป็นนักแสดงไป และเมื่อมันเข้ามาเขาก็ไม่รอช้าที่คว้าไว้ จนกลายเป็นเขาในทุกวันนี้นั่นเอง
และแน่นอนว่าผลก็ออกมาอย่างที่เรารู้กันว่าเขากลายเป็นดาราดัง แถมหนังยังกวาดรางวัลไปมากมาย…
อย่ายอมแพ้ต่ออะไรง่ายๆ อดทน และอย่าหยุดฝัน
ฉะนั้นฝันให้ไกลไปให้ถึงงงงงง
ที่มา Mind Over Matter
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.