‘ความงามของผู้หญิง’ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ค่านิยมที่ไม่อยู่นิ่ง เปลี่ยนไปตามยุคสมัย

ในเรื่องของความสวยความงามนั้นมักจะไม่หยุดอยู่กับที่ แต่จะมีการเปลี่ยนไปตามยุคสมัย และค่านิยมที่เปลี่ยนไป ซึ่งแต่ละยุคก็จะมีความงามที่ต่างกัน

และนี่คือแบบความสวยงามของผู้หญิงในแต่ละยุค ที่มีความแตกต่างกันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันที่แสดงให้เห็นถึงค่านิยมที่มีการเปลี่ยนแปลง

 

ยุค 1600-1700 ผู้หญิงสวยคือผู้หญิงอวบ

ในยุคนั้น ผู้ชายคนไหนที่อยากอวดรวย จะต้องทำให้ภรรยาตัวเองดูอ้วน มีสะโพกใหญ่ๆ และต้องมีพุงด้วย ซึ่งไม่ใช่แค่ความงามแต่เป็นการบ่งบอกถึงฐานะด้วย

 

 

ยุค 1800-1900 ผู้หญิงต้องเอวเล็ก

ยุควิคตอเรียในยุโรป ผู้หญิงต้องทำให้เอวดูเล็กที่สุด บางคนถึงขนาดเอาผ้ามารัดเอวไว้ตลอดเวลา ทำให้สาวๆ ในยุคนี้มีเอวเฉลี่ยแค่ 22 นิ้วเท่านั้น แต่ภายใต้ความเอวเล็กนี้สาวๆ ต้องแลกกับความผิดปกติของกระดูกซี่โครงและกระดูกสันหลัง

 

ยุค 1900 ความงามแบบสาวกิบสัน

สาวกิบสันเป็นนักกีฬาที่มีหน้าอกใหญ่ สะโพกกว้าง แต่ยังนิยมเอวเล็กอยู่ จึงต้องมีการรัดเอวไว้แต่ก็ไม่เท่ากับกับยุคที่ผ่านมา

 

ยุค 1920 ต้องสวยแบบผู้ชาย

คือเป็นยุคนี้ไม่นิยมเอวเล็กแล้ว ดังนั้นการแต่งตัวจะนิยมใส่ชุดที่ไม่เห็นส่วนโค้งส่วนเว้า เพื่อไม่เห็นเอวและสะโพกนั่นเอง

 

การเปลี่ยนแปลงของทรงผม

แทนที่จะไว้ยาวแต่ผู้หญิงส่วนใหญ่กลับนิยมตัดผมสั้น พวกเขาไม่ได้แต่งตัวปกปิด แต่นิยมโชว์แขนขามากกว่า

 

ยุค 1930 ผู้หญิงต้องมีส่วนโค้งส่วนเว้า

ความงามในยุคนี้ถูกนิยามว่า ผู้หญิงสวยต้องมีส่วนโค้งส่วนเว้า แต่แตกต่างจากยุคก่อนๆ เพราะต้องดูมีน้ำมีนวล อกสูงเอวบาง แต่ไม่เล็กเท่าสมัยก่อนนะ

 

ยุค Dolores del Río

ในปี 1931 มีภาพของ Dolores del Río ลงในนิตยสาร จนได้รับการยกย่องว่า หุ่นของเธอนั้นมีสัดส่วนที่ดีที่สุดในฮอลลีวู้ด เธอมีหุ่นทรงนาฬิกาทราย เอว 25 สะโพก 36 หน้าอก 33

 

ยุค 1940 ต้องสวยแบบ Marilyn Monroe

ทุกส่วนของ Marilyn Monroe ไม่ว่าจะเป็นสีผม ปาก ตา จมูก ไฝที่แก้ม ทุกอย่างคือแบบของความงามในยุคนั้น สัดส่วนคือ 36-24-34

 

แต่กว่าจะมีหุ่นเป๊ะจนได้รับการยอมรับขนาดนี้ เธอก็ต้องควบคุมให้มันอยู่แบบนี้อยู่ตลอดเวลา ด้วยการออกกำลังกายทุกเช้า 15 นาที ต่อด้วยการยกน้ำหนักเล็กน้อย

 

 

ยุค 1960 ผู้ต้องดูเหมือนเด็กหนุ่มยุค 1920

ในยุคนั้นสองนักแสดง Twiggy และ Audrey Hepburn มีหุ่นเหมือนผู้ชาย แต่ใบหน้าของพวกเธอนั้นช่างงดงามแบบผู้หญิง ทำให้ใครๆ ก็อยากมีหุ่นแบบเธอ จนกลายเป็นกระแสความงามแห่งยุค

 

ยุค 1970 ผู้หญิงนิยมอาบแดด

สาวๆ ในยุคนี้จะนิยมผิวสีแทน เพราะมันดูเป็นธรรมชาติ ดังนั้นพวกเขาจึงมักจะนอนอาบแดด หรือทำกิจกรรมที่ต้องออกแดดบ่อยๆ

 

ยุค 1970 มีการเคลื่อนไหวของขบวนการสตรียนิยม

ผู้หญิงในยุคนี้มีอิสระในการเลือกอาชีพ เลือกครอบครัว มีการสลัดผ้าถ่ายเซ็กซี่มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามพวกเธอก็ต้องรักษาหุ่นให้ดูผอมอยู่เสมอ

 

หลายคนต้องรักษาหุ่นให้ดูผอม จนกลายเป็นการเสพติดความผอม ในสุดก็นำไปสู่การสูญเสีย เช่น Karen Carpenter ที่มีหุ่นผอมเกินจนต้องจบชีวิตลงที่วัยเพียง 32 ปี

ต่อจากนั้นก็มี Anorexia nervosa ที่ได้รับการยกย่องว่าหุ่นดีที่สุดในช่วง 1870 แต่ไม่นานหลังจากนั้นเธอก็เสียชีวิตลง เนื่องจากมีอาการป่วยทางจิตอย่างรุนแรงจากการคลั่งผอม และยังมีผู้หญิงอีกมากมายที่ได้รับผลกระทบจากค่านิยมเช่นนี้

 

 

ผู้หญิงสวยคือผู้หญิงแข็งแรง

นักกีฬาโอลิมปิก Florence Griffith Joyner ได้เปลี่ยนค่านิยมความงามให้ผู้หญิงที่แข็งแรงเป็นผู้หญิงที่สวย โดยมีความเซ็กซี่อยู่ในความแข็งแรงนั้น

 

ยุคที่ผู้หญิงนิยมออกกำลังกาย

Jane Fonda กลายเป็นคนที่ทำให้ผู้หญิงหันมาออกกำลังกาย หลังจากที่เธอชนะการประกวดออกกำลังกายในปี 1982

ต่อมาเธอก็ได้ทำวิดีโอออกกำลังกายเผยแพร่ จนได้รับความนิยมอย่างถล่มทลาย โดยวิดีโอชุดแรกนั้นขายได้ถึง 17 ล้านชุด

 

ไม่ใช่แค่วิดีโอออกกำลังกายเท่านั้น เธอยังทำให้สินค้าพวกถุงน่อง ถุงเท้า เลคกิ้ง ได้รับความนิยมในยุคนั้นด้วย จนกวาดรายได้สูงสุดถึงหมื่นล้านเลยล่ะ

 

 

ยุค 1990 ยุคแห่ง Heroin Chic

ผู้นำเทรนด์ในยุคนี้คือ Kate Moss ที่มีรูปร่างผอม มีไหปลาร้าที่ยื่นออกมา ตรงกับคำว่า heroin chic ซึ่งเป็นหุ่นที่สวยงามลงตัวจนใครๆ ก็อยากมีหุ่นแบบนี้

 

ยุค 2000 หุ่นนางแบบได้รับความนิยมมาก

เทรนด์นี้เริ่มต้นด้วยนางแบบชาวบราซิลอย่าง Giselle Bundchen, Adriana Lima และ Alesandra Ambrosio ที่มีรูปร่างผอมแต่งดูแข็งแรง และบวกกับการตัดต่อให้ผิวดูเนียน จึงทำให้สาวๆ ใฝ่ฝันอยากมีหุ่นแบบนี้

 

ยุคที่ผู้หญิงนิยมมีสะโพกใหญ่

Jennifer Lopez คือหญิงสาวที่ทำให้ทุกต้องสะดุดตาอีกครั้งกับหุ่นที่เย้ายวน ตามมาด้วย Kim Kardashian, Nicki Minaj, Amber Rose และ Iggy Azalea ด้วยการมีสะโพกที่ใหญ่โดดเด่น

 

ได้เห็นกันแล้วว่าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนั้นผู้หญิงมีความงามที่หลากหลาย และไม่ว่าหุ่นคุณจะมีเป็นอย่างไร คุณก็คือคนสวย เพราะนั่นเป็นสิ่งที่ธรรมชาติให้มา ดังนั้นคุณจึงไม่จำเป็นต้องทำให้เหมือนใครเพื่อความสวย แค่เป็นตัวของตัวเองก็พอ

 

ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้หญิงในหุ่นแบบไหน ทุกคนก็มีความสวยงามอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองอยู่แล้ว

 

ที่มา lifebuzz

Comments

Leave a Reply