น้อยครั้งมากที่เราจะได้พบเจอสิ่งแปลกปลอม หรือเศษซากบางอย่างในผลิตภัณฑ์อาหารที่เรารับประทานกันในแต่ละวัน แต่ถ้าหากได้เจอครั้งหนึ่งละก็ เรียกได้ว่าทำเอาหลายคนถึงกับร้องยี้ขึ้นมาทันทีเลยใช่ไหมละ
ล่าสุด เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2560 ทางสำนักข่าวต่างประเทศมีรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไอร์แลนด์เหนือ กำลังเร่งสืบหาสาเหตุที่มาของกระป๋องที่ถูกส่งไปยังโรงงานผลิตน้ำอัดลมโคคา-โคล่า หลังพบว่ามีอุจจาระของมนุษย์ปนเปื้อนอยู่
จากการรายงานระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าว ได้เกิดขึ้นในขณะที่ทางโรงงานผลิตน้ำอัดลม Hellenic Bottling Company ในเมือง Lisburn, Co Antrim ประเทศไอร์แลนด์ กำลังผลิตน้ำอัดลมตามปกติอยู่ แต่จู่ๆ เครื่องผลิตก็ดันเกิดขัดข้องเนื่องจากพบว่า ภายในเครื่องผลิตมีบางสิ่งบางอย่างเข้ามาอุดต้น
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ทางพนักงานได้รุดเข้าไปตรวจสอบ และพบว่ากระป๋องน้ำอัดลมได้รับการปนเปื้อนจากอุจจาระของมนุษย์เป็นจำนวนมาก
“โดยปกติแล้วกระป๋องน้ำอัดลม จะถูกส่งมาจากประเทศอังกฤษ แต่ในครั้งนี้มันถูกส่งมาจากประเทศเยอรมนี” ซึ่งในระหว่างการขนส่งกระป๋องมายังโรงงานบรรจุ ก็พบว่าฝากระป๋องในล็อตนี้ไม่ได้ทำการปิดมาตั้งแต่แรก
นอกจากนี้ ยังมีการคาดเดาอีกว่า อาจมีผู้อพยพที่พยายามหลบหนีเข้าเมืองมาลอบขึ้นรถขนส่งกระป๋อง ซึ่งการเดินทางในครั้งนั้นอาจจะต้องใช้เวลาที่ยาวนาน และเมื่อต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก จึงทำให้พวกเขาต้องตัดสินใจใช้กระป๋องน้ำอดลมแทนการเข้าห้องน้ำนั่นเอง
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจไอร์แลนด์เหนือ ได้ออกมาเผยว่า “การสืบหาสาเหตุที่เกิดขึ้นกำลังอยู่ในระยะเริ่มต้น ซึ่งขณะนี้ทางเรายังไม่มีรายละเอียดใดๆ ที่จะมาขี้แจงให้ทราบ”
ขณะเดียวกันบริษัทโคคา-โคล่า ก็ได้ออกมาเผยว่า “ปัญหาที่ทางบริษัทกำลังเผชิญอยู่ ได้รับการแก้ไขแล้ว ซึ่งหลังจากที่ทางบริษัทได้ทราบเรื่อง ก็ทำการระงับการจำหน่ายน้ำอัดลมล็อตดังกล่าวทันที…
โดยทางบริษัทของเราขอยืนยันว่า จะทำให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยและคุณภาพของผลิตภัณฑ์อย่างเข้มงวดมากขึ้น และสำหรับผู้บริโภคสามารถมั่นใจได้เลยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ จะไม่มีผลกระทบผลต่อโค้ก รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของทางบริษัทที่กำลังวางจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดในขณะนี้อย่างแน่นอน”
ที่มา : theguardian, dailydot, gizmodo
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.