Eldad Hagar ผู้ก่อตั้งองค์กรช่วยเหลือสุนัข Hope for Paws เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวันไปกับการตามหาและช่วยสุนัขจรจัด แม้ว่าสุนัขทุกตัวไม่ใช่ว่าจะยอมให้ช่วยเหลือง่ายๆ แต่เขาก็มักจะมีวิธีเด็ดๆ ในการช่วยพวกมันเสมอ
มีอยู่วันหนึ่ง Eldad และคณะ ได้ไปเจอเข้ากับสุนัขจรจัดเพศเมีย 3 ตัว และพยายามจะช่วยเหลือพวกมัน แต่ด้วยความที่พวกมันหวาดกลัวผู้คน มันจึงไม่ยอมให้พวกเขาเข้าใกล้แม้แต่นิดเดียว
แต่โชคดีหน่อยตรงบริเวณที่พวกมันอยู่ จะมีหญิงสาวสองคนที่ทำงานแถวนั้น ซึ่งคอยให้อาหารพวกมันมาตลอด 2 ปี และพวกเธอก็เป็นตัวเชื่อมให้ทีมงานของเขาช่วยพวกมันได้
Hagar เล่าถึงความยากในการช่วยเหลือพวกมันว่า “ถ้าคุณเข้าไปใกล้พวกมันเมื่อไหร่ พวกมันก็จะวิ่งข้ามทางรถไฟและหายไปทันที”
แต่แล้ววันหนึ่งพวกเธอก็ส่งข่าวบอกพวกเขาว่า สุนัขตัวหนึ่งได้คลอดลูกจำนวนหนึ่ง<ตัวเมียได้คลอดลูกครอกใหม่ และหนีไปซ่อนตัวอยู่บริเวณถ้ำเล็กๆ ใกล้กับจุดที่มันอยู่ในตอนแรก
ซึ่งหญิงสาวได้นั่งเฝ้าและคอยสังเกตุถึงจำนวนของลูกสุนัขที่คลอดออกมานานกว่า 6 ชั่วโมง จนได้รู้ว่ามีลูกหมาอยู่ทั้งหมด 8 ตัวด้วยกัน
จากนั้นไม่นานนัก Eldad และคณะก็ได้เดินทางมาถึง เตรียมปฏิบัติการช่วยเหลือลูกสุนัขและแม่ของมันจากถ้ำแห่งนั้น เพื่อให้ได้ไปอยู่ในที่ๆ ดีกว่า
หลังจากที่เขาเจอเข้ากับลูกหมาพร้อมกับสังเกตสีและรูปร่างของพวกมัน เขารู้ได้ทันทีว่าพวกมันน่าจะเป็นลูกของสุนัขจรจัดตัวผู้ที่ชื่อว่า Tank ซึ่งเป็นสุนัขจรจัดที่อาศัยอยู่แถวนั้นเช่นกัน ซึ่งตัวนี้พวกเขาก็ได้ช่วยเหลือมันไปเมื่อหลายเดือนก่อน
เขาหลอกล่อพวกมันด้วยของกิน ด้วยความที่ลูกสุนัขยังพึ่งเกิดได้ไม่กี่สัปดาห์ พวกมันจึงยังไม่มีความกลัวกับมนุษย์มากนัก แต่มันก็ระมัดระวังตัวพอสมควรเลยทีเดียว ในตอนที่เขานำอาหารไปให้พวกมัน
จากนั่นไม่นาน เขาก็จับตัวลูกหมาตัวแรกได้เรียบร้อย แต่ว่าผลของการทำแบบนั้นคือ ลูกสุนัขตัวอื่นๆ ต่างพากันหลบเข้าไปในถ้ำไม่กลับออกมาอีกเลย
เขาจึงตัดสินใจที่จะคลานเข้าไปในถ้ำด้วยตัวเอง แต่ว่าปากถ้ำมันก็ช่างเล็กซะเหลือเกิน ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ยอมแพ้ เขาพยายามขุดรูให้มันกว้างขึ้นมากพอที่เขาจะพาตัวเองเข้าไปข้างในได้
และเขาก็หวังว่าลูกสุนัขที่อยู่ภายในถ้ำมันจะไม่หนีเข้าไปลึกเกินไปจนเขาเอื้อมไม่ถึง
และแล้วเขาก็มองเห็นพวกมัน 3 ตัวที่แอบอยู่ภายในมุมถ้ำ เขาค่อยๆ เอิ้อมไปจับพวกมันมาทีละตัวๆ พวกลูกหมาที่พึ่งเคยถูกสัมผัสโดยมนุษย์เป็นครั้งแรกก็แสดงความกลัวออกมาอย่างเต็มที่ พร้อมร้องเสียงดังดุจดั่งกำลังร้องไห้ แต่ไม่นานนักพวกมันก็ตระนักได้ว่าพวกมันไม่ได้เป็นอะไร และปลอดภัยดี
เขากล่าวถึงสาเหตุที่พวกมันร้องว่า “พวกมันไม่เข้าใจว่าทำไมเราถึงมาอยู่ที่นี้ และพวกมันก็คงคิดว่าเราเป็นนักล่าที่พยายามจะทำร้ายพวกมัน”
หลังจากที่เขาช่วยทั้งสามตัวในมุมถ้ำออกมาได้แล้ว เขาก็ตั้งใจที่จะตามหา 6 ตัวที่เหลือ แต่ว่าพวกมันกลับอยู่ลึกเสียเหลือเกิน เขาบอกว่าเขาต้องคลานเข้าไปในถ้ำลึกเกือบ 2 เมตรเลยทีเดียว
จนสุดท้ายเลือกที่จะใช้พลั่ว เพื่อขยายถ้ำให้กว้างยิ่งขึ้น
.
“ผมต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการขุด และทุกครั้งที่ขุดลงไปผมจะต้องระวังไม่ให้ถ้ำมันพังลงมาทับพวกมัน แถมทุกครั้งที่มีรถไฟวิ่งผ่าน ผมรู้สึกได้เลยว่าพื้นดินกำลังสั่น ถือเป็นประสบการณ์ที่น่ากลัวมากๆ เลยทีเดียว”
“ผมพยายามที่จะคลานเข้าไปให้ลึกที่สุด และใช้มือควานหา เมื่อผมสัมผัสได้กับส่วนหางหรือส่วนไหนของลูกสุนัขผมก็จะจับมันไว้ทันที และให้ทีมงานลากขาผมออกไปพร้อมกับลูกสุนัขที่ผมจับได้ ผมทำแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า”
.
สุดท้ายเขาและทีมงานก็ประสบความสำเร็จในการช่วยเหลือลูกสุนัขทั้ง 8 ตัว พร้อมกับพามันไปยังที่ปลอดภัย แต่แล้วถึงแม้หญิงสาวจะบอกว่าลูกหมามีทั้งหมด 8 ตัว Eldad ก็ไม่คิดแบบนั้น เขากลับมาที่เดิมในตอนกลางคืนพร้อมกับตั้งใจฟังเสียงในถ้ำอย่างตั้งใจ
เขากลับไปตรวจสอบที่เดิมอีกครั้งในตอนกลางคืน
และเขาก็ต้องเจอกับเรื่องที่คาดไว้ไม่ผิด เพราะว่ามันไม่ได้มีแค่ 8 ตัว เขาเจอลูกหมาตัวที่ 9 อยู่ในส่วนลึกที่สุดของถ้ำ ส่วนสาเหตุที่หญิงสาวไม่เคยเห็นเจ้าตัวนี้ก็คงเป็นเพราะมันกลัวด้วยความที่ตัวมันเล็กที่สุด มันก็เลยไม่ยอมออกจากถ้ำเลยนั่นเอง
สรุปแล้วพวกเขาใช้เวลาทั้งหมด 7 ชั่วโมงครึ่งในการช่วยเหลือพวกมันทั้งหมด และหลังจากถูกช่วยเหลือไว้ พวกเขาก็ทำความสะอาดให้กับพวกมัน พร้อมกับส่งพวกมันไปดูแลต่อที่บ้านรับเลี้ยง ซึ่งจะแยกออกเป็นสองที่ด้วยกัน
แถมตอนนี้พวกมันทั้ง 9 ก็มีชื่อเป็นของตัวเองแล้วด้วย ส่วนใครที่สนใจอยากจะรับเลี้ยงดูพวกมันก็สามารถเข้าไปรายละเอียดได้ที่ The Dog Rescuers และ The Lovejoy Foundation
สามารถรับชบคลิปเหตุการณ์เต็มๆ ได้ที่คลิปข้างล่างเลยจ้า
ที่มา thedodo
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.