หญิงสาวผู้ทุ่มเทเพื่อสุนัข รับเลี้ยงหมาที่ไม่มีเจ้าของกว่า 900 ชีวิต จนเป็นครอบครัวใหญ่

ในการเลี้ยงสัตว์นั้นเราก็คงอยากเลี้ยงตามสามารถเพื่อที่จะได้ดูและพวกมันให้ดีที่สุด แต่สำหรับบางคนกลับเลือกที่จะดูแลสัตว์ทุกตัวที่ไม่มีเจ้า และมอบสิ่งดีๆ ให้พวกมันนี้

นี่เป็นเรื่องราวของ Lya Battle ผู้หลงรักสุนัข จนต้องรับเลี้ยงไว้ทุกตัว… ทุกอย่างมันเริ่มขึ้น Diego สุนัขวัย 15 ปี ถูกนำตัวไปยังศูนย์พักพิงใน Costa Rica

 

 

Diego เป็นสุนัขที่แก่มากแล้ว ทำให้ร่างกายของมันอ่อนแอและยังเป็นเนื้องอกอีกต่างหาก ในช่วงนั้นเป็นจังหวะเดียวกับที่ Battle เดินทางไปยังศูนย์พักพิงเพื่อหาสุนัขมาเลี้ยงพอดี แล้วเธอก็เกิดสะดุดเข้ากับ Diego

หญิงคนนี้เล่าถึงวันนั้นว่า “ตอนนั้นมันค่อนข้างดึกแล้ว และทางศูนย์กำลังจะปิด แล้วจะก็ได้ยินเสียงหญิงคนหนึ่งพูดกับเพื่อนวัน ‘เดี๋ยวๆ ก่อนออกไปจัดการหมาตัวนี้ก่อนมั้ย’”  หมาตัวนั้นก็คือ Diego

“จากนั้นฉันก็เห็นพวกเขาเอาหมาตัวหนึ่งเข้าไปห้องผ่าตัด เพื่อที่จะทำการการุณยฆาตมัน เนื่องจากมันแก่มากแล้ว” เธอไม่อาจทนเห็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปนี้ได้ เธอจึงตัดสินใจบอกเจ้าหน้าที่ว่าขอรับหมาตัวนี้ไปเลี้ยง

 

 

แต่ทางเจ้าหน้าที่ตอบกลับมาว่า “ไม่ได้ค่ะ มันกำลังป่วย และแก่มากแล้ว” Battle จึงบอกว่า “ไม่เป็นไรค่ะ ต่อให้มันอยู่ได้แค่อาทิตย์เดียว ถ้ามันจะจากไป ก็ให้มันได้อยู่ที่บ้านดีกว่าค่ะ”

ส่วนตัว Battle นั้นมีสุนัขที่เลี้ยงไว้มากมายอยู่แล้ว แต่เธอก็ยังอยากได้ Diego มาเพิ่มอีก และถือเป็นสุนัขที่ต้องดูแลเป็นพิเศษตัวแรกของเธอด้วย

 

 

เธอบอกว่า “ครั้งแรกฉันก็คิดว่ามันคงอยู่ได้อีกประมาณอาทิตย์เดียว แต่เมื่อมาอยู่กับฉันมันอยู่ได้อีกถึง 4 ปี แหน่ะ รวมๆ แล้วมันน่าจะมีอายุประมาณ 19-20 ปีค่ะ”

ไม่ใช่แค่ Diego ที่ต้องการความช่วยเหลือ แต่ที่ Costa Rica ยังมีสุนัขอีกมากมายรอการช่วยเหลือ ทั้งสุนัขที่อยู่ตามข้างถนน และคนเลี้ยงหมาหลายๆ ก็ไม่เข้าใจการเลี้ยงหมาที่ถูกวิธีด้วย

 

 

นอกจากนี้ในศูนย์พักพิงต่างๆ ก็มักจะประสบปัญหาด้านงบประมาณ ทำให้ความลำบากตกอยู่กับสุนัขเหล่านี้ บ้างก็ถูกลอยแพ ไร้ที่พึ่ง

เมื่อรู้ว่าสุนัขที่ Costa Rica ได้รับการช่วยเหลือเพียงเล็กน้อย Battle จึงตัดสินใจที่จะช่วยเหลือสุนัขให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยไม่สนใจว่าจะเป็นหมาแก่ หรือหมาที่ไม่สบาย เธอก็เต็มใจจะช่วยพวกมันทุกตัว

 

 

เธอพาสุนัขเหล่านั้นกลับไปอยู่ที่บ้านด้วย โดยมีสามี Alvaro Saumet คอยช่วยดูแลอีกแรง พวกเขาอยู่ในบ้านหลังเล็กๆ ใน Escazu

ตอนแรกก็เลี้ยงหมาแค่ไม่กี่ตัว แต่เพียงเวลาสั้นๆ ก็มีสุนัขเพิ่มขึ้นถึง 100 ตัว Saumet จึงตัดสินใจสร้างบ้านไว้ที่สนามหลังบ้าน เพื่อเป็นที่อยู่ในสุนัขพวกนี้

 

 

แต่เนื่องจากสุนัขมีมากเกินไป พวกเขาจึงจ้างคนมาช่วยดูแลอีก 2 คน เพราะ Battle และ Saumet ต่างก็มีงานประจำอยู่แล้วเหมือนกัน

Battle บอกว่า “การเลี้ยงสุนัขพวกนี้มันก็เป็นงานของฉันเหมือนกัน ส่วนสามีจะช่วยออกในเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้ และเมื่อเราเจอสุนัขที่ต้องการความช่วยเหลือ เราก็จะพามันกลับบ้านทุกตัวค่ะ”

 

 

หลังจากอยู่ในบ้านหลังเล็กมานาน 4 ปี พวกเขาก็รู้สึกว่าต้องการที่ที่มันใหญ่กว่านี้ เพื่อให้สุนัขเหล่านี้ไม่ต้องอยู่กันอย่างแออัด

แต่โชคดีที่ Battle ได้รับมรดกจากทางครอบครัวเป็นฟาร์มที่มีพื้นที่ขนาด 292 ไร่ ใกล้ก้บ Alajuela ซึ่งเคยเป็นที่ของปู่มาก่อน

 

 

แต่สามีของเธอบอกว่า “ทำไมเราไม่จ้างคนไปอยู่ดูแลสุนัขที่นั่นล่ะ ส่วนเราก็อยู่ที่บ้านเหมือนเดิมเนี่ยแหละ”  ดังนั้นในปี 2009 ทั้งคู่จึงก่อตั้ง Territorio de Zaguates ขึ้นมา ให้เป็นที่อยู่ของสุนัข

ที่แห่งนี้ยินดีต้องนรับสุนัขทุกตัว ไม่ว่าจะเป็นหมาจรจัด หมาถูกทิ้ง หมาแก่ หรือแม้แต่หมาที่ป่วย โดยจะให้การดูแลพวกมันเป็นอย่างดี

 

 

ปัจจุบันที่นี่มีสุนัข 600-700 ตัว ซึ่งก่อนหน้านี้มันเคยมีมากถึง 900 แต่ก็มีคนเข้ามาขอรับเลี้ยงทุกอาทิตย์ อย่างไรก็ตามที่นี่ก็รับสุนัขเข้ามาทุกวันเหมือนกัน หมุนเวียนกันอยู่อย่างนี้เรื่อยๆ

พวกเขายังได้ตั้งชื่อให้สุนัขทุกตัวที่เข้ามาในนี้ด้วย โดย Battle บอกว่าเธอจำพวกมันได้ทุกตัว เธอบอกว่า “เราตั้งชื่อตลกๆ ให้พวกมัน ดังนั้นหมาที่นี่จะไม่ค่อยมีชื่อน่ารักๆ สักเท่าไร ส่วนตัวไหนที่มีผิวไม่ค่อยดี เราจะเรียกมันว่า Scab เพื่อง่ายต่อการจำค่ะ” 

 

 

ตอนนี้ในบ้าน Territorio de Zaguates ถูกล้อมไว้ด้วยสุนัขนำนวนมาก แต่พวกมันมักจะไม่ชอบอยู่กับบ้าน แต่ชอบเดินตามผู้ดูแลสำรวจรอบๆ บริเวณบ้านมากกว่า

แม้จะมีสุนัขมากมายขนาดนี้ แต่พวกมันก็จะได้รับการดูตลอด 24 ชั่วโมง ในเวลากลางคืนพวกมันจะเข้าไปนอนในกรงแล้วจะคนดูแลจะล็อคประตูไว้อย่างดี

 

 

Battle รักในสิ่งที่เธอทำตอนนี้ แต่มันก็ต้องใช้เงินจำนวนมากเหมือนกัน

 

แต่เธอก็ยืนยันว่า “แม้มันจะเป็นงานที่หนักแต่มันก็คุ้มค่ามากเช่นกันค่ะ บางทีมันก็มีผลกับอารมณ์ของเรานะ แต่เราก็ต้องทำมันต่อไป ยิ่งเป็นงานที่ยาก มันยิ่งเป็นการท้าทายเรา ดังนั้นเราจะทำให้ดีที่สุดเพื่อพวกมันค่ะ”

 

 

เห็นแบบนี้แล้ว #เหมียวขี้ส่อง คิดว่าเราควรจะช่วยเธอเหมือนกันนะ แม้จะเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม ใครอยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยเหลือนี้ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ treeseed นะคะ

 

 

โห ต้องบอกว่าเป็นคนที่ใจกว้างมากจริงๆ ค่ะ

ที่มา thedodo

Comments

Leave a Reply