เข้าครัวทำ “คุกกี้รีลักคุมะ” รสโกโก้หอมอร่อยกรุบกรับ ทานเองก็ได้ จะทำขายก็ดี!!

ถ้าพูดถึงตัวการ์ตูนหมีสีน้ำตาล ขวัญใจใครหลายๆ คนคงหนีไม่พ้น เจ้า “หมีรีแลกคุมะ” ที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในประเทศญี่ปุ่นและอีกหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทยด้วย หมีรีแลกคุมะนี้มีนิสัยชอบนอน ชอบการพักผ่อน จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ตัวการ์ตูนตัวนี้มีชื่อว่ารีแลกคุมะไงล่ะ

และในครั้งนี้เราจะมาเข้าครัวทำคุกกี้ แต่คุกกี้ของเรานั้นต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน เพราะเราจะทำให้น่ารักสุดๆ ในแบบรีแลกคุมะ ที่สาวกเจ้าหมีขี้เซาต้องร้องกรี๊ดกันเลยทีเดียว

 

เค้าน่ารักป่าววว??

 

ก่อนอื่นเราไปชมส่วนผสมและวิธีการทำก่อนเลย!!

วัตถุดิบและส่วนผสม

– แป้งเอนกประสงค์ 235 กรัม
– ผงโกโก้ 5 กรัม
– เนยจืด(ปล่อยไว้ให้นุ่มในอุณหภูมิห้อง) 100 กรัม
– น้ำตาลทรายบดละเอียด 100 กรัม
– เกลือหนึ่งหยิบมือ
– ไข่แดง 2 ฟอง
– สีผสมอาหารสีเหลือง
– ช็อคโกแลตละลาย

ลงมือทำกันเลย!!

 

1. ก่อนอื่นต้องผสมแป้งคุกกี้กันก่อนนะ ตีเนยที่ทิ้งจนนุ่มแล้วค่อยๆ เทน้ำตาลทรายลงไปตีด้วย ที่ละส่วนๆ จนหมดและเข้ากันดี จากนั้นใส่ไข่แดงและแป้งอเนกประสงค์ที่ร่อนแล้วผสมให้เข้ากันอีกครั้ง

 

2. แบ่งแป้งเป็น 3 ส่วน โดยมีปริมาณดังนี้ 145 กรัม , 60 กรัมและ 30 กรัม นำแป้งในส่วนที่มากที่สุด 145 กรัมไปผสมกับผงโกโก้อีก 5 กรัม เพื่อที่จะได้สีน้ำตาลสวย และแป้งส่วนที่น้อยที่สุด 30 กรัม ไปใส่สีผสมอาหารสีเหลืองเพื่อที่จะได้ทำหูของรีแลกคูมะไงล่ะ

 

3. เมื่อผสมสีเสร็จแล้ว ก็นำแป้งแต่ละส่วนมาห่อด้วยพลาสติกแล้วนำเข้าไปพักในตู้เย็นประมาณ ครึ่งชั่วโมงถึง 1 ชั่วโมงโดยประมาณ

 

4. นำแป้งออกจากตู้เย็นแล้วนำมาคลึงให้เป็นแผ่นแล้วใช้พิมพ์รูปหมีรีแลกคุมะกดลงไปเพื่อตัดเป็นตัวคุกกี้ แต่ถ้าใครไม่มีแม่พิมพ์ก็สามารถวาดรีแลกคุมะลงบนกระไขแล้วใช้มีดแกะๆ ตามรอยวาดก็ได้

.

 

5. ต่อไปตัดแป้งสีขาวให้เป็นรูปวงรีเหมือนพุงรีแลกคุมะ แล้วแปะลงไปเลย

 

6. แล้วก็ปั้นแป้งสีขาวให้เป็นวงกลมเล็กๆ อีกอันเพื่อที่จะทำเป็นจมูก

 

7. จากนั้นก็นำแป้งสีเหลืองมาทำเป็นหู และนำเข้าเตาอบความร้อน 325 F หรือ 170 C ประมาณ 15 นาที

 

8. เมื่อนำออกมาจากเตาอบก็ใช้ช็อกโกแลตวาดหน้าตาให้ซะหน่อย (นำช็อกโกแลตละลายมาให้ถุงแล้วตัดมุมเล็กๆ เพื่อใช้วาด)

 

น่ารักน่าชังสุดๆ

 

คุกกี้ร้อนๆ ของเราเพิ่งออกจากเตาเลยจ้าา หน้าตาก็น่ารักน่ารับประทานแถมหวานกรอบกรุบกรับ

เพื่อนๆ น่าจะลองไปทำกันดูบ้างนะเหมียววว

ที่มา bentomonsters

Comments

Leave a Reply