การขับรถฝ่าดงน้ำแข็งเพื่อนำอาหาร 12 ตัน ไปส่งมอบให้ชาวบ้าน อันห่างไกลในไซบีเรีย…

เมื่อพูดถึงไซบีเรีย เราคงจะนึกถึงพื้นที่กว้างใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ น้ำแข็ง และธรรมชาติอันขาวโพลน สถานที่ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่มนุษย์จะไปอยู่อาศัยนอกจากนักโทษที่ถูกเนรเทศเท่านั้น

แต่เชื่อมั้ยว่ายังมีคนกลุ่มหนึ่งตั้งรกรากอยู่ที่นี่ ทั้งที่การเดินทางนั้นลำบากมากๆ แถมยังอยู่ในพื้นที่ห่างไกลจนทำให้ความเจริญเข้าไปไม่ถึงด้วย

ยังดีที่มีคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่กลัวความลำบากเหล่านี้ พวกเขาตัดสินใจที่จะได้ออกเดินทางท่ามกลางความลำบากเพื่อนำอาหาร 12 ตันไปยังบริจาคให้คนในเมือง Belaya Gora ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของอาร์กติกไซบีเรีย

 

Ruslan ผู้ที่จะนำอาหารไปให้ชาวไซบีเรีย

 

ในการเดินทางนั้น นอกจากต้องใช้เส้นทางที่มีแต่หิมะแล้ว ยังต้องข้ามแม่น้ำที่ถูกแช่งแข็ง และไม่รู้ด้วยว่ามันจะจะยุบลงเมื่อไหร่

ด้วยน้ำหนักของอาหารที่ขนไปบวกกับน้ำหนักของรถบรรทุก และเวลาที่ต้องใช้ในการเดินทางยาวนานร่วมกว่า 10 วัน ซึ่งนับว่าเป็นเส้นทางที่อันตรายมากๆ แต่ทุกคนก็ยังยืนยันที่จะไปอยู่ดี

 

ส่วนนี่คือรถบรรทุกของเขา

 

Ruslan ออกเดินทางพร้อมเพื่อนจำนวนหนึ่ง เพื่อนำอาหารให้คนในเมือง Belaya Gora ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของอาร์กติกไซบีเรีย

 

พวกเขาออกเดินทางจาก Yakutsk และเส้นทางที่จะไปยังเมือง Belaya Gora นั้น เริ่มต้นด้วยถนนเส้นสีแดง จากนั้นก็ต้องผ่านแม่น้ำแช่แข็งเส้นสีฟ้าเกือบครึ่งทางเลย

 

การเดินทางในช่วงแรกก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรมากบนเส้นทางหลวง Kolyma แต่ถนนค่อนข้างจะลื่นพอสมควร

 

พวกเขาต้องนอนพักผ่อนแออัดกันในรถ และผลัดกันนอนเป็นพักๆ

 

พวกเขากินอาหารแช่แข็งและอาหารกระป๋อง แต่โชคดีที่นำเตาแก๊สพกพามาด้วย จึงสามารถปรุงอาหารได้ในระดับหนึ่ง

 

ตลอดการเดินทาง จะเห็นแต่วิวทิวทัศน์ภูเขาหิมะรอบด้าน โชคดีที่สภาพอากาศยังคงเอื้ออำนวยต่อการเดินทาง

 

จนกระทั่งมีเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้น เมื่อ Andrei เพื่อนของ Ruslan เกิดขับรถพลิกคว่ำ เนื่องจากเลี้ยวเร็วเกินไป

 

สภาพรถพังยับเยิน จนไม่สามารถวิ่งต่อไปได้ แต่โชคดีที่ Andrei ไม่ได้เป็นอะไรมาก มีเพียงแผลถลอกที่มือเท่านั้น Ruslan จึงให้เพื่อนย้ายของไปที่รถบรรทุกของเขาแล้วออกเดินทางด้วยกัน

 

Andrei กับปืนลูกซองกึ่งอัตโนมัติของเขา หยิบออกมาโชว์ในช่วงที่หยุดพักรถ (สังเกตแผลที่มือขวา ผลพวงจากรถพลิกคว่ำ)

 

จากที่นั่ง 2 คน ตอนนี้ก็เพิ่มเป็น 4 คนแล้ว แน่นอนว่ามันอึดอัดมากๆ แต่ก็ต้องอดทน

 

และแล้วก็มาถึงเส้นทางน้ำแข็ง ซึ่งเป็นจุดที่ทุกคนกังวลมากที่สุด

 

พวกเขาพยายามหลีกเลี่ยงจุดที่เป็นอันตราย เพราะรถบรรทุกคันนี้หนักมาก ดังนั้นโอกาสที่น้ำแข็งจะแตกก็มีสูงเช่นกัน

 

ตลอดการเดินทางเต็มไปด้วยความเสี่ยง

 

พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่า จะไปถึงจุดหมายปลายทางมั้ย เพราะที่ผ่านมามีคนมาเสียชีวิตระหว่างเดินทางผ่านแม่น้ำแช่แข็งนี้กว่า 5 รายแล้ว

 

และถ้าดูดีๆ ใต้น้ำแข็งนั้น คุณจะเห็นสายน้ำที่ไหลเวียนอยู่

 

Ruslan ให้ดูภาพรถของเพื่อนที่เดินทางมาก่อนหน้านี้

 

พวกเขาค่อยๆ เคลื่อนตัวข้ามแม่น้ำนี้ไปด้วยความระมัดระวังสุดขีด

 

แต่แล้วก็พลาดจนได้… เมื่อแผ่นน้ำแข็งเริ่มละลาย จนทำให้ล้อรถข้างหนึ่งตกหลุม ทุกคนจึงรีบออกมาจากรถทันที

 

จากนั้นก็พยายามจะนำรถออกมาจากหลุมนั้น แต่ทว่า มันไม่ใช่เรื่องที่ง่ายๆ

 

สถานการณ์เริ่มแย่ลงเรื่อยๆ บวกกับความืดที่คืบคลานเข้ามา ทำให้การทำงานลำบากมากยิ่งขึ้น

 

แต่หลังจากที่พยายามอยู่นาน พวกเขาก็สามารถนำรถออกมาได้ และออกเดินทางต่อไป ท่ามกลางแสงเหนือที่ส่องสว่างบนท้องฟ้า

 

สำหรับอุปสรรคที่ผ่านมานั้น ทำให้ทุกคนถึงกับภาวนาให้ทุกอย่างมันดีขึ้น

 

เช้าวันต่อมา ท้องฟ้าก็กลับมาสดใส กลับมาเดินทางบนถนนปกติอีกครั้ง ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น

 

และการเดินทางในวันนั้นก็สิ้นสุดลงที่โบสถ์ใน Zashiversk

 

ตอนนี้การเดินทางก็เข้าใกล้เมือง Belaya Gora มากขึ้นแล้ว จนทุกคนยิ้มออกมาได้

 

และแล้ว หลังจากการเดินทางมา 5 วันเต็มๆ พวกเขาก็ได้อาบน้ำเป็นครั้งแรกที่ Belaya Gora ซึ่ง Ruslan ก็มีอพาร์ทเม้นต์เล็กๆ ที่นั่นหลังหนึ่งด้วย

 

จากนั้นก็เอาของลงจากรถบรรทุกเพื่อแจกจ่ายให้ชาวบ้าน

 

เด็กสาวมารับของบริจาคด้วยหน้าตาแห่งความสุข

 

พวกเขาตัดสินใจอยู่ที่นี่อีกหนึ่งคืน และนี่ก็คือสภาพภายนอกอพาร์ทเม้นต์ของ Ruslan

 

หลังจากที่ทำภารกิจเสร็จแล้ว Ruslan ต้องคิดหนัก เพราะพวกเขาต้องเดินทางกลับ โดยใช้เส้นทางเดิมอีกครั้ง

 

Ruslan ทำการบูชาวิญญาณท้องถิ่น เรียกขวัญกำลังใจก่อนที่จะออกเดินทางสู่ความอันตรายอีกครั้ง

 

ระหว่างทางเขาเจอกับคนขับรถบรรทุกคันอื่นด้วย จึงได้แวะทักทายกัน

 

จากนั้นก็ออกเดินทางด้วยกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีนะ เพราะถ้าหากประสบกับปัญหาก็จะได้ช่วยกันแก้ไข และลากรถบรรทุกอีกคันให้รอดพ้นจากอันตราย

 

และแล้วพวกเขาก็ต้องเจอกับน้ำแข็งที่ละลายอย่างรวดเร็วอีกครั้ง

 

และต้องเจอกับเหตุการรถตกหลุมอีกครั้ง แถมต้องทำงานท่ามกลางความมืดเหมือนขามาเลย

 

แต่ทุกคนก็ทำงานอย่างหนักเพื่อลากรถขึ้นมา ในที่สุดความพยายามก็สำเร็จ พวกเขาถึงรถออกมาจนได้

 

แวะดื่มน้ำจากแม่น้ำที่ไหลผ่าน แต่กว่าจะได้ดื่มต้องขุดเจาะน้ำแข็งลึกพอสมควรนะ

 

อุปสรรคยังคงเข้ามาเรื่อยๆ ตลอดการเดินทาง

 

และยิ่งรู้ว่าเคยเกิดอุบัติเหตุที่นี่ก็ยิ่งต้องระมัดระวังมากขึ้น

 

ในที่สุดวันที่ 8 มีนาคม 2016 พวกเขาก็ยิ้มออกอีกครั้ง เพราะเข้าสู่เส้นทางที่มีความปลอดภัยแล้ว

 

รวมการเดินทางในครั้งนี้ก็ประมาณ 10 วันได้ ซึ่งตลอดการเดินทางนั้นเต็มไปด้วยอุปสรรคและความเสี่ยงที่คาดไม่ถึง แต่ในที่สุดทุกคนก็ผ่านมันมาได้ และนับเป็นการเดินทางที่คุ้มค่าสุดสำหรับพวกเขา เพราะทุกคนไม่ได้ทำเพื่อตัวเองแต่ยอมเสี่ยงเพื่อไปช่วยเหลือคนที่ลำบากกว่า

 

นับถือใจของพวกท่านจริงๆ ที่ตั้งใจไปช่วยเหลือคนอื่น ในดินแดนอันห่างไกลขนาดนี้ แม้จะต้องเสี่ยงอันตรายมากแค่ไหนก็ตามที!!

ที่มา boredpanda

Comments

Leave a Reply