คณลุงวัย 76 ปี ใช้เวลากว่า 24 ปี ช่วยเหลือแมวจรจัด เพื่อให้พวกมันได้มีชีวิตที่ดีขึ้น

ใครจะเชื่อว่าชายคนหนึ่งจะมอบความรักและดูแลแมวจรจัดตลอด 24ปี…

 

Willie Ortiz คุณลุงวัย 76 ปี ชาวเปอร์โตริโกคนนี้ เขาได้มาอาศัยอยู่ในเมืองฮาร์ตฟอร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นเวลานานแล้ว ซึ่งนั่นทำให้เขาพบกับปัญหาแมวจรจัดที่มีมากในเมืองแห่งนี้ และชาวเมืองก็ดูจะไม่ชอบพวกมันสักเท่าไหร่

 

 

คุณลุงแกบอกกับ thedodo ว่า “ผมเห็นแมวจรจัดจำนวนมากที่ถูกผู้คนรังเกียจ พยามจะไล่มันไปหรือเตะมันในบางครั้ง” มันทำให้เขารู้ได้ทันทีว่า เขานี่แหละจะต้องเป็นคนเข้าไปช่วยพวกมัน ซึ่งเขาก็ตระหนักดีว่าตัวเขาเองไม่สามารถจะรับเลี้ยงพวกมันได้ทั้งหมด

 

เขาจึงเริ่มจากวิธีง่ายๆ ด้วยการให้อาหารมันพร้อมกับพาพวกมันไปฉีดสเปรย์ป้องกันให้พวกมันด้วย และถ้าแมวป่วยเขาก็จะดูแลพวกมันอย่างเต็มที่และพามันบางตัวกลับไปดูแลต่อที่บ้าน ซึ่งเขาทำแบบนี้เป็นประจำมานานถึง 24 ปี แล้ว

Willie บอกว่า “พวกมันต้องการความช่วยเหลือ ผมต้องมั่นใจว่าพวกมันทุกตัวจะมีอาหารกินและมีสุขภาพที่ดี” 

 

 

จนถึงตอนนี้คุณลุง Willie ดูแลแมวครอบคลุมถึง 68 ตัวใน 16 อาณาเขตด้วยกัน โดย Kathleen Schlentz เพื่อนของลุงแกได้อธิบายว่า อาณาเขตของพวกมันก็จะอยู่แตกต่างกันไปทั้งจุดทิ้งขยะ หัวมุมถนน ตรอก หรือตึกร้างเป็นต้น

Kathleen อธิบายเพิ่มเติมว่า “อาณาเขตของพวกมันจะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ไม่อยู่ที่เดิมตลอดเวลา และแมวบางตัวก็อาจจะถูกรถชนตายหรือบางครั้งก็อาจจะไม่รอดจากภัยหนาว”

 

 

เห็นคุณลุงช่วยพวกมันขนาดนี้ จริงแล้วลุงแกก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรหรอก เพราะคุณลุงแกปกติแล้วก็จะหาเงินด้วยการเก็บเศษขยะต่างๆ รวมถึงรับจ้างทั่วไป เพื่อนำเงินมาใช้และดูแลเจ้าเหมียวจรจัดพวกนี้

Kathleen เพื่อนของคุณลุงมองเห็นความมีน้ำใจของแก ก็เลยจัดการทำเว็ปไซต์ที่ชื่อว่า ctferalcat ขึ้นมาแล้วเปิดระดุมทุนผ่าน GoFundMe เพื่อนำมาช่วยเหลือแมวพวกนี้นั่นเอง

 

 

นอกจากนี้เธอยังเล่าถึงตัวคุณลุง Willie ว่า “ฉันไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเขาเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน เขาออกไปดูแลพวกมันด้วยตัวเองทุกวัน เป็นเวลากว่าหลายปีและทำมันทุกๆ วันอีกต่างหาก”

 

 

เธอยังพูดเสริมอีกว่า “เขาเป็นคนที่จิตใจดี เขาแทบจะไม่เอาเงินไปใช้อะไรกับเรื่องของตัวเองเลย บางคนถึงกับไปถามกับแกว่าทำไมถึงใช้เงินไปกับแมวเยอะขนาดนั้นกัน และรู้ไหมเขาตอบกลับว่ายังไง เขาบอกว่าก็เพราะมันคือแมวยังไงล่ะ..”

 

ที่มา thedodo

Comments

Leave a Reply