เจ้าของยอมเจ็บ ใช้ร่างกายเข้าปกป้อง ‘สุนัขแจ็ครัสเซล’ ของตัวเอง หลัง “พิทบูล” สองตัวรุมกัด!?

วินาทีระทึกเมื่อสุนัขพิทบูลสองตัวของหญิงสาวคนหนึ่งเกิดคลั่ง หันไปโจมตีสุนัขแจ๊ครัสเซลของชายวัยกลางคน แต่ในช่วงวินาทีชีวิตของสุนัขตัวเล็ก เจ้าของมันได้ตัดสินใจเข้าไปรับคมเขี้ยวแทนเพื่อปกป้องสุนัขอันเป็นที่รักของเขา…

John Brady วัย 52 ปี เขาพยามที่จะปกป้อง Josh สุนัขแจ๊ครัสเซลวัย 6 ขวบของเขา โดยเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นที่เกาะซานตาคาตาลินา ในรัฐแคลิฟอร์เนีย

 

สุนัขพันธุ์พิทบูล 2 ตัวของหญิงสาวคนหนึ่ง เข้าโจมตี Josh โดยไม่ทันตั้งตัว ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าสุนัขสายพันธุ์ดังกล่าวมีแรงที่เยอะเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทำให้พวกมันสามารถจัดการสุนัขตัวเล็กแบบ Josh ได้อย่างง่ายดาย

แต่มีหรือที่ John จะปล่อยให้สุนัขของเขาตายไปต่อหน้า เขากระโดดลงไปบังสุนัขของเขาทันที นั่นทำให้เขาถูกพวกมันกัดเข้าอย่างจัง

 

 

แต่ว่าเหตุการณ์ผ่านไปได้ไม่นานเจ้าหน้าที่บริเวณท่าเรือเข้ามาช่วยเขาได้ทัน ทว่าเหตุการณ์ยังไม่จบแค่นั้น เพราะสุนัขพิทบูลวัย 11 ปีทั้งสองหันหน้าเข้ากัดกันสร้างความตกใจให้เข้าหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของอย่างมาก พร้อมกับเสียงร้องของเธอที่ได้รับบาดเจ็บจากการที่พยายามห้ามปรามสุนัขทั้งสอง

 

และนี้ก็คือคลิปจากเหตุการณ์ดังกล่าว

 

John ให้สัมภาษณ์กับ KTLA ว่า “สิ่งเดียวที่ผมคิดในตอนนั้นคือช่วยเจ้า Josh ให้รอดจากภัยอันตราย ในตอนที่ผมช่วยมันได้สำเร็จผมรุ้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก และก็รู้สึกดีที่ว่ามันยังไม่ตาย เพราะมันเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในโลกสำหรับผมแล้ว”

ตามรายงานข่าว CBS Local ระบุว่าตัวของ John คงจะฟ้องหญิงสาวเจ้าของหมาดังกล่าว ผู้สร้างความวุ่นวายและทำให้ทั้งเขาและหมาบาดเจ็บ

 

 

ส่วนทางด้านหญิงสาวเจ้าของพิทบูลทั้งสอง ก็ยอมลงความเห็นว่า เธอเห็นด้วยกับการการุณยฆาตสุนัขทั้งสองของเธอ เพราะมันคงจะไม่กลับเป็นเหมือนเดิม และการที่ทำให้เธอ รวมถึง John และ Josh บาดเจ็บหนักก็ถือเป็นเรื่องที่รับได้ยาก

สุดท้ายแม้ Josh จะรอดมาได้แต่อาการของมันก็หนักพอสมควร ด้วยเหตุนี้ John ก็เลยเปิดระดมทุนผ่าน gofundme เพื่อนำเงินไปช่วยสุนัขของเขา ถ้าใครสนใจก็ลองไปสมทบทุนกันได้ครับ…

 

.

 

เรื่องนี้คงจะเป็นบทเรียนให้หลายๆ ฝ่าย ในเรื่องการเลี้ยงสุนัขและควบคุมดูแลเมื่อนำมันออกไปนอกบ้าน เพราะหากเกิดปัญหาขึ้นมาแล้ว อาจจะทำให้เกิดการสูญเสียมากกว่านี้เลยก็ได้…

ที่มา metro

Comments

Leave a Reply