เผยโฉมหมอนวิเศษแพงที่สุดในโลก ราคาใบละเกือบ 2 ล้าน เหมาะกับทุกสรีระร่างกาย!!

การจะซื้อหมอนสักใบ เราก็คงคำนึงแค่ความหนานุ่มของมัน และราคาที่สมเหตุสมผล ว่าแต่หมอนที่เพื่อนๆ เคยซื้อกันนั้น มีราคาแพงที่สุดเท่าไหร่?

แล้วมันจะแพงเท่าหมอนใบนี้หรือเปล่า เพราะนี่คือหมอนที่ราคาแพงที่สุดในโลก ด้วยราคาประมาณ 1,970,000 บาท อู้ววว นี่มันบ้าไปแล้ววว!!

มาดูกันดีกว่าว่าทำไมหมอนใบนี้ถึงมีราคาสูงลิ่วขนาดนี้ หมอนใบนี้ได้รับการพัฒนาโดย Thijs van der Hilst นักกายภาพบำบัดชาวดัตช์ ที่ทุ่มเทเวลากว่า 15 ปี

 

 

Hilst เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคอ เขาได้พัฒนาหมอนที่ทำจากผ้าไหมมัลเบอร์รี่ ผ้าฝ้ายอียิปต์ โฟมปลอดสารพิษ และผ้าทอง 24 กะรัต

ส่วนซิปของหมอนนั้นทำด้วยแกนที่มีเพชรฝังอยู่ 4 ชิ้น และมีพลอยไพลินขนาดใหญ่อีก 22.5 กะรัต ทีนี้รู้แล้วสิว่าทำไมมันถึงแพงขนาดนี้

ถึงแม้จะเป็นหมอนราคาแพงที่สุดในโลกแต่ Hilst ก็ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้มันเป็นหมอนสำหรับบรรดามหาเศรษฐีหรือผู้ร่ำรวย แต่เขาทำขึ้นมาเพื่อคนไข้ของเขา

 

 

ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการผลิตหมอนใบนี้เพื่อขายเป็นจริงเป็นจัง เขาแค่ต้องการแก้ปัญหาให้คนไข้ และแก้นิสัยการนอนหลับให้คนที่ชอบนอนผิดท่าด้วย

เขาบอกว่า “ผมเคยแน่นำคนไข้ให้หาหมอนดีๆ มาหนุน แต่ก็มาคิดขึ้นได้ว่า ไหนล่ะหมอนดีๆ ในโลกนี้ เพราะไม่มีหมอนที่ดีพอสำหรับคนไข้ของผมเลย”

ก็อย่างที่รู้แหละว่า คนเรามีเท้าที่ต่างกัน มีความสูงต่างกัน ขนาดไหล่ และความยาวของคอ ดังนั้นหมอนที่ใช้หนุนก็ควรรับกับรูปร่างที่แตกต่างกันนี้เช่นกัน

 

 

ด้วยเหตุนี้เขาจึงตัดสินใจที่จะออกแบบหมอนที่เหมาะสำหรับทุกสรีระ หมอนดังกล่าวนี้จะมีอัลกอริทึมในตัวที่ใช้ในการคำนวณและปรับหมอนให้อยู่ในลักษณะที่ถูกต้อง จากนั้นโฟมที่ปราศจากสารพิษก็จะทำหน้าที่บันทึกรูปร่างนั้นไว้ ด้วยความซับซ้อนจึงทำให้มันเหมาะสำหรับคนไข้ทุกคน

มันอาจจะคุ้มค่าที่จะซื้อนะ แต่เชื่อว่าหลายคนคงไม่คิดจะซื้อแน่ๆ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม Hilst ไม่ผลิตออกเพื่อขาย แต่อย่างไรก็ตามเขาจะเปิดโอกาสให้ผู้คนได้มาสัมผัสหมอนใบนี้

และเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ มีงานนิทรรศการออกแบบภายในที่ประเทศดูไบ ซึ่ง Hilst ก็ตั้งใจที่จะเอาหมอนใบนี้ไปโชว์ในงานด้วย แล้วให้ผู้เข้าชมได้ลองหนุน เพื่อดูว่าพวกเขาจะรู้สึกอย่างไรเมื่อหนุนหมอนนี่ราคาแพงที่สุดในโลก

 

 

สนใจหมอนดีๆ สักใบมั้ย ราคาทำให้ตัวเบาได้เลย

ที่มา odditycentral

Comments

Leave a Reply