อะแฮ่ม… วันนี้เราจะขอทำตัวมีสาระกันบ้าง โดยเราจะพาไปรู้จักกับเบื้องหลังเรื่องราวของ Chang Hsien-yi นักวิทยาศาสตร์ชาวไต้หวัน ผู้ยับยั้งการสร้างนิวเคลียร์ในประเทศไต้หวันได้สำเร็จ แต่ทว่าเขากลับถูกทางการตราหน้าว่าเป็นกบฎ!!
ย้อนกลับไปเมื่อปี 1949 ได้เกิดเหตุที่ทำให้ไต้หวันและจีนแผ่นดินใหญ่ ต้องแยกตัวออกจากกัน แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาก็คือการแข่งขันทั้งทางการทหารและเศรษฐกิจ
Chang Hsien-yi
จนกระทั่งในช่วงปี 1960 จีนแผ่นดินใหญ่มีโครงการสร้างอาวุธนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ขึ้น ส่งผลทำให้รัฐบาลไต้หวันตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก และเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่ Hau Pei-tsun ดำรงตำแหน่งเป็นผู้นำแห่งเกาะไต้หวัน
ทำให้ไต้หวันมีโครงการที่จะสร้างอาวุธนิวเคลียร์ด้วยเช่นกัน ท่ามกลางยุคสงครามเย็นเช่นนี้ มีหลายฝ่ายที่เห็นด้วยกับการสร้างนิวเคลียร์ ทว่ากลับมี Chang Hsien-yi นักวิทยาศาสตร์ผู้ค้านหัวชนฝา และเชื่อว่านิวเคลียร์ไม่อาจนำมาซึ่งสันติภาพที่แท้จริงได้อย่างที่หลายคนคิด
โรงงาน 221 เชื่อว่าเป็นสถานที่ทำการวิจัย และทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ของจีน
Chang เป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ที่ถูกคัดเลือกให้เป็นหัวหน้าประจำสถาบันศูนย์วิจัยพลังงานนิวเคลียร์แห่งไต้หวัน ในช่วงแรกเขามีความสุขกับการได้เป็นนักวิทยาศาสตร์ชั้นแนวหน้าที่ได้รับการคัดเลือกจากทางการไต้หวัน
ทว่าต่อมา… เจ้าตัวก็เริ่มตั้งคำถามว่า แท้จริงแล้วเกาะไต้หวันต้องการนิวเคลียร์จริงๆ หรือ? บวกกับเหตุการณ์ระเบิดหายนะที่เชอร์โนบิล ประเทศรัสเซีย ก็ยิ่งทำให้เขามั่นใจว่า การไม่มีนิวเคลียร์จะเป็นผลดีต่อทั้งจีนแผ่นดินใหญ่ และไต้หวัน มากกว่า
ด้วยอุดมการณ์ที่ค้านอย่างหัวชนฝา ทำให้ Chang ได้นำเรื่องโครงการสร้างนิวเคลียร์อย่างลับๆ ของไต้หวัน ไปเปิดเผยให้กับหน่วยงาน CIA ของสหรัฐอเมริกา (ในช่วงนั้นสหรัฐฯ เข้ามามีบทบาทมากในเกาะไต้หวัน)
ก่อนที่เจ้าตัวจะถูกเล่นงานด้วยข้อหากบฎแห่งเกาะไต้หวัน เพราะนำข้อมูลลับของทางการไปเผยแพร่ เขาจึงต้องรีบทำทุกวิถีทางเพื่ออพยพจากเกาะไต้หวัน และมุ่งหน้าเข้าสู่สหรัฐอเมริกา
แต่ด้วยเงื่อนไขบนเกาะไต้หวันในช่วงนั้น ที่มีข้อแม้ว่าเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับกองทัพทหาร จะไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ จนกว่าจะได้รับอนุญาต ซึ่งทำให้เขาต้องใช้พาสปอร์ตปลอม และเอกสารปลอมทั้งหมด จากการช่วยเหลือของ CIA
หลังจากที่เจ้าตัวออกจากไต้หวัน เขาก็ถูกตั้งข้อหาว่าเป็นกบฎของทางการทันที
จากการเปิดโปงข้อมูลของ Chang ทำให้สหรัฐอเมริกามีข้อแม้ที่จะเข้าไปแทรกแซงการเมืองในไต้หวันมากขึ้น และนั่นก็ทำให้โครงการอาวุธนิวเคลียร์ต้องล้มเลิกไป
ปัจจุบัน Chang ไม่สามารถที่จะกลับไปยังบ้านเกิดของเขาได้ และอาศัยอยู่กับครอบครัวอยู่ที่สหรัฐอเมริกา โดยล่าสุดเจ้าตัวได้ปล่อยหนังสือบันทึกเรื่องราวทั้งหมดใช้ชื่อว่า Nuclear! Spy? CIA
Chang Hsien-yi ในปัจจุบัน
จากเรื่องราวดังกล่าวของเขา ก็ช่วยจุดชนวนให้กับชาวเมืองไต้หวันผู้คัดค้านการสร้างนิวเคลียร์มากมาย ในขณะที่ประธานพรรค Democratic Progressive Party ที่ชูนโยบายนิวเคลียร์มาเป็นหลัก ก็ได้ออกมาตราหน้าเขาในช่วงที่เกิดเหตุการณ์นี้ว่า
‘การกระทำของ Chang ถือว่าเป็นการทรยศต่อประเทศ และเป็นการกระทำที่รับไม่ได้’ Wang Ting-yu สัมภาษณ์ผ่านสื่อในช่วงเวลานั้น
ประชาชนผู้ออกมาประท้วงการสร้างนิวเคลียร์
เรื่องราวต่างๆ ก็นับว่าผ่านมานานหลายสิบปีแล้ว ปัจจุบันคดีความของ Chang กับรัฐบาลไต้หวัน ก็หมดอายุความลงแล้ว แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้มีแผนที่จะกลับไปเหยียบแผ่นดินเกิดของตัวเองอีก
‘คุณไม่จำเป็นต้องอยู่ที่ไต้หวัน คุณรักไต้หวันได้ ผมรักไต้หวัน ผมเป็นคนจีน และผมก็รักจีนแผ่นดินใหญ่ด้วยเช่นกัน แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือผมไม่อยากเห็นชาวจีนต้องมาเข่นฆ่ากันเอง’ Chang ให้สัมภาษณ์กับ BBC
เจ้าตัวย้ำว่าถ้าหากย้อนอดีตไปได้ก็คงจะทำเหมือนเดิม แต่สิ่งที่เสียใจที่สุดคือการไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ในวันที่ท่านทั้งสองได้จากไป
ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่น่าสนใจ แต่งนิด เสริมหน่อย เอาพล็อตไปทำหนังได้เลยนะเนี่ย
ที่มา: BBC
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.