สถาบันโบราณคดีทางทะเลเริ่มขุดซากเรือ Uluburun ขึ้นในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2527 ภายใต้การดูแลของผู้ก่อตั้ง George F. Bass และจากนั้นก็ส่งต่อวาระให้กับรองประธานาธิบดีตุรกี Cemal Pulak ให้เป็นผู้กำกับการขุดค้นระหว่างปีพ. ศ. 2528 ถึง พ.ศ. 2537
โดยซากของเรือที่ค้นพบนั้นอยู่ระหว่างความลึก 44 และ 52 เมตรลึกลงไปบนผาลาดสูงชันที่ปกคลุมด้วยทราย
กราฟภาพแสดงระดับความลึกและความชันของซากเรือที่ค้นพบ
ซากของเรือและสินค้าที่กระจัดกระจายบ่งชี้ว่า เรือมีความยาวระหว่าง 15 ถึง 16 เมตร มันถูกสร้างขึ้นโดยวิธีการที่คล้ายกับของเรือ Graeco-Roman ในศตวรรษต่อมา
นักวิจัยกำลังรวบรวมวัตถุโบราณจากซากเรือ
เรือถูกสร้างขึ้นด้วยไม้จากต้นเลบานอนซีดาร์และต้นโอ๊ก ซึ่งต้นเลบานอนซีดาร์เป็นต้นสนพื้นเมืองที่เติบโตอยู่แถบภูเขาเลบานอน ตุรกีทางตอนใต้ และไซปรัสกลาง
เมื่อทางสถาบันได้นำซากเรือที่ฝังอยู่ในทรายขึ้นมาตรวจสอบ ผลปรากฎว่าสินค้าที่เรือบรรทุกมาไม่ว่าจะเป็น มะเดื่อ องุ่น มะกอก รวมไปถึงอัลมอนด์ นั้นอยู่ในสภาพที่ยังคงรับประทานได้!? เนื่องมาจากแรงดันของน้ำภายในทะเลและความเค็มที่หมักสินค้าเหล่านี้ไว้ไม่ให้เน่าเสีย
เหลือเชื่อว่าสินค้าหลายอย่างในไหพวกนี้ ยังสามารถกินได้อยู่!?
สินค้าที่ถูกพบบนซากเรือนั้นหากใช้เกณฑ์ทางภูมิศาสตร์พิจารณา สินค้าเหล่านี้จะอยู่ตั้งแต่งยุโรปทางเหนือจนไปแอฟริกา ซิซิลีและซาร์ดิเนียรวมไปถึงเมโสโปเตเมียอีกด้วย
เหรียญเงินที่ค้นพบในซากเรือ
ซึ่งสินค้าในซากเรือนี้แสดงให้เห็นถึงการแลกเปลี่ยนและผสมผสานระหว่าง 9 – 10 วัฒนธรรมในอดีต ซึ่งหลักฐานนี้แสดงให้เห็นถึงความรุ่งเรืองในช่วยปลายยุคสำฤทธิ์ ที่การเดินทางระยะไกลนั้นเป็นการค้าขาย รวมไปถึงการให้บรรณาการแก่กษัตริย์ในอาณาจักรต่างๆ อีกด้วย
จากการค้นพบครั้งนี้แสดงให้เห็นอีกว่า ในอดีตนั้นมีเครือข่ายพาณิชย์ทางทะเลที่รุ่งเรืองของสายเมดิเตอร์เรเนียนยุคปลาย ในกรณีนี้สินค้าที่มักจะขนมักจะเป็น สินค้าที่หรูหรา ของขวัญแก่เชื้อพระวงศ์และวัตถุดิบต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นดาบ อาวุธก็ถูกขนเพื่อการแลกเปลี่ยนในเรือลำนี้
สินค้าหรูหราเช่นรูปปั้นทองคำก็เช่นกัน
เรือสินค้าของ Uluburun ประกอบด้วยวัตถุดิบส่วนใหญ่ที่เป็นสินค้าเพื่อการแลกเปลี่ยน ซึ่งก่อนการค้นพบของเรือนั้นเป็นที่รู้จักกันดีจากตำราโบราณหรือภาพเขียนของชาวอียิปต์
โมเดลจำลองขนาดเรือและสินค้าที่ถูกเติมลงไปในท้องเรือ
หลังจากการขุดค้นเสร็จสิ้นเมื่อเดือนกันยายน ปีพ.ศ. 2537 นักวิจัยได้มุ่งเน้นไปที่การศึกษาเพื่อการอนุรักษ์และการวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการอนุรักษ์ที่พิพิธภัณฑ์โบราณคดีใต้น้ำเมือง Bodrum ในประเทศตุรกี
ชมวิดิโอสารคดีตัวเต็มได้ที่นี่
เห็นแบบนี้แล้วก็สุดยอดไปเลยนะเนี่ยะ การค้นพบที่สำคัญแบบนี้แสดงให้เห็นว่าอารยธรรมของมนุษย์สมัยโบราณนี้เป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่จริงนะเนี่ยะ
ที่มา: thevintagenews
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.