ถิ่นที่อยู่อาศัยในดินแดนอันห่างไกล มักจะประสบกับปัญหาความเจริญที่เข้าไม่ถึง และขาดการดูแลจากภาครัฐในหลายๆ เรื่อง คนในพื้นที่จึงต้องดูแลกันเองเพื่อความอยู่รอด
อย่างเช่น Zhang Jiwen ชายชราวัย 75 ปี ที่แม้ว่าเกือบจะหูหนวกแล้ว แต่เขายังมีสองมือที่พร้อมจะช่วยเหลือผู้คนที่ด้อยโอกาสเสมอ
ย้อนกลับไปในปี 2012 เขาได้เริ่มแบกวัสดุก่อสร้างขึ้นไปยังภูเขาในอุทยานแห่งชาติ Fuling Forest Park ใกล้กับเมืองฉงชิ่ง เพื่อสร้างทางเดินที่ปลอดภัย เชื่อมจากถนนลาดยางมายังหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลบนยอดเขา
หลายคนคงสงสัยว่าทำไมชายชราถึงต้องทุ่มเทให้หมู่บ้านมากขนาดนี้ นั่นเป็นเพราะ Zhang เคยเติบโตมาในหมู่บ้าน Fuling ที่มีความกันดาร
ต่อมาเขาได้ย้ายเข้าไปอยู่ในเมืองใหญ่ที่มีความเจริญ มีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่าง แต่เขาไม่เคยลืมหมู่บ้านที่ตัวเองจากมาเลย
เมื่อเขาได้ยินเรื่องราวของหมู่บ้านบนภูเขาว่า เด็กๆ ต้องเดินทางลงเขาด้วยเส้นทางที่ลาดชันและมีความเสี่ยงเพื่อไปโรงเรียน เขาจึงไม่ลังเลที่จะเข้าไปช่วยเหลือในทันที
แต่การเดินทางไปทำงานบนยอดเขาเป็นไปได้ยากมาก Zhang จึงต้องหารถยนต์เพื่อขนส่งวัสดุและเดินทางไปยังที่หมาย ตลอดระยะเวลา 5 ปี เขาต้องนั่งรถบัสพร้อมกับขนวัสดุทีละเล็กทีละน้อยจากฉงชิ่งไปยังอุทยาน Fuling Forest Park
โดยการทำงานในครั้งนี้ Zhang ต้องซื้อวัสดุ อุปกรณ์จำนวนมาก โดยใช้เงินตัวเองทั้งหมด ส่วนวัสดุที่ไม่จำเป็นต้องซื้ออย่าง หินหรือทราย เขาก็ได้ขนมาจากแม่น้ำใกล้เคียง รวมทั้งนำอิฐเก่าๆ ที่ไม่ใช้แล้วมาสมทบด้วย
ครั้งแรกที่เขาเริ่มสร้างทางเดินบนภูเขา ผู้คนจากอุทยาน Fuling Forest Park รวมทั้งคนในหมู่บ้านที่เขาช่วยเหลืออยู่ ต่างคิดว่าเขาบ้าไปแล้ว แต่ Zhang ไม่สนใจคำพูดเหล่านั้น เพราะเขามีเป้าหมายที่ชัดเจนและจะทำมันให้สำเร็จ
ใครที่เคยทำงานบนภูเขาจะรู้ดีว่ามันทั้งเสี่ยงและอันตรายมาก และมันยิ่งแย่สำหรับชายชราที่มีความบกพร่องทางการได้ยินอย่าง Zhang ซึ่งเขาก็บอกว่าประสบอุบัติเหตุหลายครั้งระหว่างการก่อสร้างด้วย
เขาเล่าให้ฟังว่า ครั้งหนึ่งมีหินก้อนใหญ่กลิ้งลงมาทับขาจนขาหัก จริงๆ ก่อนที่หินจะหล่นลงมา คนที่อยู่แถวนั้นต่างตะโกนบอกเขา แต่ Zhang ไม่ได้ยินก็ได้เลยได้รับบาดเจ็บเต็มๆ
แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขายอมแพ้ หลังจากที่รักษาขาจนสามารถกลับมาเดินได้อีกครั้ง เขาก็ได้ขึ้นไปบนภูเขาทันทีเพื่อสะสางงานที่ยังค้างอยู่
ในการสร้างทางเดินบนภูเขา Zhang ไม่ได้สร้างให้เพียงแค่เสร็จๆ ไปเท่านั้น แต่เขาคำนึงถึงความปลอดภัยของชาวบ้านเป็นหลัก…
อย่างทางที่อยู่บนเนินเขาสูงชัน เขาได้ทำเป็นบันไดหินที่แข็งแกร่งพร้อมกับราวจับ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง นอกจากนี้เขาได้ยังทำที่นั่งหินเพื่อให้ผู้สูงอายุนั่งพักระหว่างการเดินทาง และทำที่หลบฝนให้เด็กๆ ด้วย
หลังจากที่เขาทำงานอย่างหนักมาตลอด 5 ปี ในที่สุดก็สามารถสร้างทางเดินที่มีความยาวหลายร้อยเมตร และมีความปลอดภัยให้กับชาวบ้านได้สำเร็จ ทำให้เด็กๆ สามารถเดินทางไปโรงเรียนได้สะดวกขึ้น
แต่ชายชราไม่ได้หยุดเพียงเท่านี้ หลังจากที่ทำทางเดินเส้นดังกล่าวเสร็จ Zhang ก็เริ่มทำโครงการต่อไปทันที นั่นก็คือการสร้างเส้นทางหลักจากหมู่บ้านเชื่อมไปยังแหล่งน้ำ
เนื่องจากหมู่บ้านกับแหล่งน้ำห่างกันประมาณ 100 เมตร และมีความลาดชัน โดยเฉพาะในฤดูฝนที่จะมีความอันตรายมาก เพราะทำให้ลื่นล้มได้ Zhang จึงต้องการที่จะทำสร้างทางเดินที่ปลอดภัยให้กับชาวบ้านไปยังแหล่งน้ำเพิ่มอีก
จนในที่สุด เป้าหมายของเขาก็สำเร็จ ทั้งทางเดินไปโรงเรียนและทางไปยังแหล่งน้ำ ทำให้การเดินทางของชาวบ้านมีความปลอดภัยมากขึ้นเป็นอย่างมาก และ Zhang ไม่ต้องห่วงว่าชาวบ้านจะเกิดอุบัติเหตุระหว่างเดินทางอีกแล้ว
ชาวบ้านต่างขอบคุณ Zhang ที่ทุ่มเทเพื่อพวกเขามากขนาดนี้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้ยินเสียงขอบคุณจากชาวบ้าน แต่ชายชรารับรู้ได้จากสายตาและรอยยิ้มของพวกเขา
เมื่อ 10 ปี ก่อน Zhang สูญเสียการได้ยินเกือบทั้งหมด แทนที่เขาจะทำตัวเหมือนคนป่วย แต่เขากลับบอกว่าสิ่งเหล่านี้ทำให้เขาเข้มแข็ง กล้าหาญ และเป็นอิสระมากขึ้น
Wang Lanying วัย 74 ปี ภรรยาของ Zhang ก็อยู่ในสภาพที่ไม่ต่างกัน เพราะความชราทำให้สายตาของเธอพร่ามัวจนมองแทบไม่เห็น แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็มักจะนำอาหารไปส่งให้สามีบนภูเขาและอยู่กับเขาในช่วงพัก
ภรรยายอมรับว่าในตอนแรกเธอไม่ค่อยเห็นด้วยกับสิ่งที่สามีจะทำ นั่นเป็นเพราะเธอไม่เข้าใจแรงจูงใจของสามี และคิดว่ามันอันตรายเกินไป
สุดท้ายแล้วเธอก็ได้แต่ขอพรให้สามีปลอดภัย และยื่นเงื่อนไขให้สามีติดต่อเธอทุกชั่วโมงเพื่อเช็คให้แน่ใจว่าเขายังปลอดภัยดี
หลายคนอาจจะคิดว่าได้เวลาที่ Zhang จะพักผ่อนแล้ว แต่สำหรับชายผู้มีน้ำใจคนนี้ เขาคิดว่านี่เป็นเพียงความสำเร็จก้าวแรกเท่านั้น เพราะเขามีแผนที่จะพัฒนาให้หมู่บ้านห่างไกลอีกนับร้อยแห่ง และจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
Zhang กลายเป็นแบบอย่างที่ได้รับการนับถือจำนวนมาก และได้รับการยกย่องจากทั่วโลก ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงทำเพื่อผู้อื่นจนถึงทุกวันนี้ แม้ร่างกายจะเริ่มอ่อนล้าลงก็ตาม
ที่มา odditycentral
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.