เป็นปกติที่เราบางคนอาจจะแอบดูเพื่อนบ้านบ้างในบางครั้ง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร ถ้ามันไม่เข้าข่ายถ้ำมองนะ เพราะบางมีเพื่อนบ้านอาจจะทำเสียงดัง หรือทำอะไรที่เป็นจุดสนใจจนเราต้องหันไปมอง
Arne Svenson วัย 60 ปีจากแมนฮัตตันตอนล่าง ก็ชอบแอบมองเพื่อนบ้านในบางครั้งเหมือนกัน เพราะเขามักจะใช้ชีวิตในสตูดิโอของอพาร์ทเม้นต์ ซึ่งเป็นหน้าต่างกระจกที่สามารถมองเห็นวิวโดยรอบได้อย่างชัดเจน
หลังจากที่เขาแอบมองเพื่อนบ้านอยู่หลังกระจกหลายต่อหลายครั้ง เขาก็เริ่มที่จะถ่ายรูปสิ่งที่เห็นจนกลายเป็นภาพชุด “แอบถ่ายข้างบ้าน”
Svenson บอกว่า “โปรเจคนี้ได้เริ่มขึ้นเมื่อผมมองเพื่อนบ้านผ่านกระจกและได้ถ่ายรูปกิจกรรมต่างๆ ที่พวกเขาทำในแต่ละวัน”
เขาบอกอีกว่า “แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ตัวว่าถูกแอบถ่าย แต่ผมก็พยายามที่จะไม่เปิดเผยใบหน้าของพวกเขาเพื่อเป็นการไม่ละเมิดสิทธิครับ ที่สำคัญผมไม่ได้ถ่ายภาพเพื่อระบุตัวตนของพวกเขา แต่ผมถ่ายเพื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์”
แม้ว่า Svenson จะไม่ได้มีเจตนาไม่ดีกับเพื่อนบ้าน แต่หลังจากที่รูปเหล่านี้ถูกปรากฏอยู่ในแกลเลอรี่ ก็มีเพื่อนบ้านสองคนที่รู้สึกถูกคุกคามความเป็นส่วนตัวจนนำไปสู่การฟ้องร้อง
Svenson ได้พูดในชั้นศาลว่า “ผมไม่ได้ถ่ายภาพอะไรที่มันดูน่าเกลียด ผมได้ถ่ายเพื่อระบุว่าพวกเขาเป็นใคร แต่ผมถ่ายภาพพวกเขาในฐานะที่เป็นตัวแทนมนุษย์คนหนึ่งครับ”
“เจตนาของผมคือการถ่ายภาพกิจวัตรประจำวันของมนุษย์ในแต่ละวันที่แตกต่างกัน และวิธีที่เราจะได้ความจริงคือต้องถ่ายโดยไม่ให้พวกเขารู้ตัว”
“มันเป็นงานศิลปะที่ต้องการสื่อให้เห็นว่า ธรรมชาติของมนุษย์เรานั้นเป็นยังไง ผมไม่ได้ระบุตัวตนแต่ผมแค่อาศัยช่วงที่พวกเขามีการเคลื่อนไหวบันทึกภาพเท่านั้นเองครับ”
หลังจากที่ฟังคำแก้ต่างแล้ว ศาลได้ลงความเห็นว่า Svenson ไม่มีความผิดตามรัฐธรรมมนูญฉบับที่หนึ่งที่พูดถึงเสรีภาพในการแสดงออก นั่นหมายความว่าเขามีสิทธิที่จะถ่ายภาพคนข้างบ้านได้ ตราบใดที่เขาไม่ได้มีเจตนาไม่ได้ดี และไม่ได้ระบุตัวตน
.
.
.
.
.
แล้วถ้าเป็นเราล่ะ หากถูกแอบถ่ายแบบนี้ จะมองเป็นงานศิลปะหรือเป็นการคุกคาม?
ที่มา sobadsogood
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.