เรียกได้ว่ากำลังเป็นประเด็นบนโลกโซเชียลที่ถูกพูดถึงอย่างมากในโลกตะวันตก เรื่องราวของนักเรียนสาว Sophie Harris วัย 14 ปี หลังจากถูกติติงเรื่องใส่ขาสั้นมาโรงเรียน
โดยเมื่อวันอังคารที่ 30 พฤษภาคม 2017 เธอได้ใส่กางเกงขาสั้นและเสื้อกล้ามไปโรงเรียน Trafalgar Middle School ทว่าเธอกลับถูกคุณครูชายในโรงเรียนว่ากล่าวตักเตือน
โดยให้เหตุผลว่า “การใส่เสื้อกล้าม และกางเกงขาสั้น อาจก่อให้เกิดการยั่วยุทางสายตากับนักเรียนชายได้”
ประเด็นดังกล่าวสร้างความรู้สึกไม่สบายใจให้แก่กลุ่มนักเรียนหญิงในโรงเรียนแห่งนี้เป็นจำนวนมาก และนำมาสู่ประเด็นคำถามที่ว่า “ถ้าการแต่งตัวของผู้หญิงมันทำให้นักเรียนชายเกิดอารมณ์ได้ มันก็ต้องเป็นปัญหาของตัวผู้ชายเองสิ”
แน่นอนว่านักเรียนหญิงทุกคนในโรงเรียนแทบจะไม่เห็นด้วยกับเหตุผลที่ไม่ให้พวกเธอใส่ขาสั้นมาโรงเรียน จนนำมาซึ่งการประท้วงอย่างสันติวิธี ด้วยการรวมตัวกันใส่กางเกงขาสั้น และเสื้อยืด หรือเสื้อกล้าม ตามแต่วิถีแฟชั่นของสาวๆ แต่ละคน
“พวกเขาอ้างว่าการแต่งตัวแบบที่หนูแต่ง มันผิดกฎของโรงเรียน พวกเราเลยตั้งใจที่จะรวมกลุ่มกันประท้วงแต่ไม่ใช่เพราะอยากจะเอาชนะหรอกนะ แต่เราอยากจะเรียกร้องความเสมอภาค และความเท่าเทียมกัน” Sophie ให้สัมภาษณ์
ชุดที่เธอใส่ไปโรงเรียนในวันนั้น…
Sabine Edney หนึ่งในนักเรียนสาวผู้เข้าร่วมการประท้วงได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อ CBC ว่า
“เรายอมรับว่าทุกสังคมต้องมีกฎ เพื่อการบริหาร และการจัดการ แต่ว่ากฎนั้นมันควรจะเป็นกฎที่ตั้งอยู่บนความเสมอภาคอย่างเท่าเทียม”
ไม่ใช่แค่กลุ่มนักเรียนสาวในโรงเรียนเท่านั้น ที่เห็นด้วยกับการออกมาประท้วงอย่างสันติวิธี เพราะ Carol-Ann Leidloff ครูใหญ่ประจำโรงเรียนก็ได้ออกมาให้ความเห็นสนับสนุนการกระทำของสาวๆ
“สิ่งที่สำคัญมากกว่าเรื่องการแต่งตัว ก็คือนักเรียนทุกคนที่นี่มีสิทธิที่จะพูด นำเสนอความคิดของตัวเอง และมีผู้ใหญ่ที่คอยรับฟัง ซึ่งฉันว่าพวกเขาทำได้ดีมากเลยล่ะ และนี่ก็เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับการประท้วงในประเทศประชาธิปไตย”
นับว่าเป็นเรื่องราวที่สะท้อนอะไรหลายอย่างได้ดี ภายในประเด็นเดียว…
ที่มา: CBC
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.