ชวนเข้าครัวทำเมนู “ข้าวขาหมู” ขุนให้อ้วนด้วยสูตรวิธีทำง่ายๆ ทำให้กระเพาะหวั่นไหว…

เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนต้องมีข้าวขาหมูเป็นหนึ่งในเมนูโปรดกันอย่างแน่นอน ว่าแต่ที่ทานกันบ่อยๆ เคยเข้าครัวปรุงข้าวขาหมูกันบ้างหรือเปล่า

บางคนอาจจะคิดว่าการทำข้าวขาหมูนั้นยาก เพราะต้องใช้เวลาตุ๋นขาหมูนานและใช้เครื่องปรุงเยอะแยะไปหมด แต่ครั้งนี้เราจะมาเผยสูตรข้าวขาหมูแบบหมดเปลือก จนคุณสามารถที่จะเป็นเชฟมือโปรที่บ้านได้

ซึ่งสูตรนี้เป็นสูตรจาก สมาชิกหมายเลข 3643762 ที่ได้แชร์วิธีการทำ “ข้าวขาหมู” ในแบบที่เห็นแล้วต้องน้ำลายไหล โดยวิธีทำก็ไม่ได้ยากจนเกินไป ดังนั้นไม่รอช้าเราไปชมวิธีการทำข้าวขาหมูสุดกลมกล่อมกันเลย

 

“ข้าวขาหมู”

 

วัตถุดิบ

– ขาหมูเผา (ใช้ขาหน้า ชั้นมันน้อยๆ)
– หมูสามชั้น
– ข้าวสวย

เครื่องปรุง

– เกลือสมุทร
– น้ำส้มสายชูหมัก
– ซีอิ๊วดำเค็ม
– ซีอิ๊วดำหวาน
– น้ำมันหอยหรือซอส
– เห็ดหอม
– น้ำตาลกรวด
– กระเทียม
– รากผักชี
– น้ำเปล่า

 

 

หมูสามชั้นอวบๆ

 

อับดันแรกเราจะนำขาหมูไปเผาเพิ่มอีกนิด ให้หนังมีลักษณะเกรียมและแห้ง

 

ส่วนหมูสามชั้นก็นำไปเผาหนังสักเล็กหน่อย แล้วหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วนำไปทอดครู่หนึ่ง แค่พอให้ผิวนอกเป็นสีน้ำตาลและข้างในไม่ถึงกับสุกมาก

 

จากนั้นก็เตรียมการตุ๋นได้เลย โดยใส่เครื่องปรุงทั้งหมดลงไป ประกอบด้วย เกลือสมุทร น้ำส้มสายชูหมัก ซีอิ๊วดำเค็ม (ตราเสือ) น้ำมันหอยหรือซอสเห็ดหอม ซีอิ๊วดำหวาน น้ำตาลกรวด กระเทียม รากผักชี น้ำเปล่า (ใส่น้ำให้ท่วมขาหมูขึ้นมาเล็กน้อย) เอาเฉพาะขาหมูลงต้มก่อน ส่วนของสามชั้นไว้ต้มทีหลัง

 

การตุ๋นนั้นใช้ไฟแรงในช่วงแรก เมื่อน้ำเริ่มเดือดก็ค่อยๆ หรี่ไฟลง ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงก็จะได้หนังหมูย่นๆ พองๆ แบบนี้

 

เมื่อต้มขาหมูได้ 2 ชั่วโมงแล้วก็ทยอยใส่หมูสามชั้นที่ทอดลงไป ถ้าน้ำเริ่มแห้งก็สามารถเติมน้ำเปล่าลงไปได้อีก เพื่อให้ระดับน้ำนั้นท่วมหมู

 

จากนั้นก็ต้มไปเรื่อยๆ อีก 2 ชั่วโมง ก็เป็นถือว่าใช้ได้แล้ว

 

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด เลือกส่วนที่ชอบมาหั่นและจัดใส่จาน ตักน้ำราดให้ชวนน้ำลายไหล

 

รสชาติเค็มนำหวานตามติดลิ้นกลมกล่อม ทานเคียงคู่กับพริกน้ำส้มสายชูจะช่วยตัดเลี่ยนได้ดีเยี่ยม

 

แค่นี้เราก็จะได้ข้าวขาหมูสุดอร่อยที่สามารถทำทานได้ทั้งครอบครัวแล้วล่ะ

 

เนื้อหมูเปื่อยและหนังดูนุ่มสุดๆ

 

เพื่อนๆ ไหนที่ชอบเมนูข้าวขาหมูต้องลองไปทำกันดูนะ

ทำเสร็จแล้วก็อย่าลืมแบ่งให้คนอื่นชิมด้วยล่ะ

ที่มา pantip