หลานสาวแอบลักพาตัวสุนัขของคุณยาย เข้าไปในโรงพยาบาล เพื่อไปให้กำลังใจเธอถึงที่!!

เรียกได้ว่าสุนัขนั้นเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรู้และยังเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรักได้อีกด้วย ไม่ว่าเจ้าของจะเศร้าหรือดีใจมันก็คอยที่จะอยู่ข้างๆ เสมอ และเราก็มีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นหน้าเจ้าตูบมันมีความสุขที่ได้อยู่เคียงข้างเรา

เช่นกันกับคุณยายท่านหนึ่งที่เธอป่วยและต้องนอนที่โรงพยาบาล สิ่งที่จะทำให้เธอนั้นสดชื่นขึ้นมาได้ก็คือเจ้าสุนัขตัวน้อยของเธอ

แต่ทว่าทางโรงพยาบาลไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้ามาได้ เธอคงหมดหนทางที่จะได้พบกับสุนัขของเธอแล้ว แต่ทว่าหลานสาวไม่อาจปล่อยให้คุณยายเป็นแบบนี้แน่ๆ ไปชมเรื่องราวน่ารักๆ ระหว่างคุณยายและน้องหมากันเลยดีกว่า

Shelby Hennick เธอเป็นหลานของคุณยายที่ต้องพักรัษาตัวที่โรงพยาบาลเนื่องจากเป็นอัมพาต คุณยายรู้สึกเศร้าเอามากๆ คุณหลานสุดน่ารักจึงมีความคิดดีๆ ที่จะทำให้คุณยายนั้นสดชื่นขึ้นมาบ้าง

เธอเริ่มคิดถึงสิ่งที่คุณยายรัก และสิ่งแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวก็คือเจ้า Patsy  สุนัขตัวน้อยที่เป็นสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของคุณยาย แต่เธอจะทำอย่างไรดีล่ะ เพราะทางโรงพยาบาลห้ามนำสัตว์เข้ามาในอาคารอย่างเด็ดขาด…

เธอจึงตัดสินใจที่จะลักลอบนำเจ้า Patsy เข้ามาในโรงพยาบาล โดยใช้ผ้าขนหนูห่มตัวของ Patsy ไว้ แล้วก็แอบเดินเข้ามาในโรงพยาบาลแกล้งทำเป็นอุ้มเด็กน้อยอยู่

“คุณยายเลี้ยงเจ้า Pasty มาประมาณ 13 ปีแล้ว และสายสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองนั้นก็แทบจะแยกจากกันไม่ได้เลย” ในระหว่างที่เธอกำลังแอบอุ้มเจ้า Pasty เข้ามาในโรงพยาบาล เจ้าสุนัขตัวน้อยนั้นแอบอยู่ใต้ผ้าขนหนูอย่างเงียบๆ โดยไม่ส่งเสียงเลยสักนิด แต่ก็คอยเลียแขนของเธออยู่เรื่อยๆ

และมีจังหวะหนึ่งที่พยาบาลเริ่มสงสัยในสิ่งที่เธออุ้มเข้ามาด้วย แต่ในที่สุดแล้วพยาบาลก็เดินจากไปแต่โดยดี ภารกิจนี้ก็จึงผ่านพ้นไปได้ด้วยดี…

แต่ที่สำคัญที่สุดคือคุณยายกับเจ้า Patsy ได้พบกันแล้ว ทั้งคู่ต่างรู้สึกดีใจมากที่ได้เจอหน้ากันอีกครั้ง เป็ภาพที่น่ารักและซึ้งสุดๆ ไปเลยล่ะ ต้องขอบคุณหลานตัวแสบได้ทำให้เจ้า Patsy ได้เข้ามาหาคุณยายด้วย ฮร่าาาา

ทางด้านของขาวเน็ตก็ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นแก่เรื่องราวสุดน่ารักที่หลานสาวได้แชร์ลงบนทวิตเตอร์ว่าเธอช่างเป็นหลานที่รักคุณยายเสียจริงๆ

บางคนก็กล่าวว่าเรื่องราวนี้ทำให้น้ำตาไหลทีเดียวเชียว

แล้วเพื่อนๆ ล่ะ มีสุนัขที่รักกันบ้างหรือเปล่า

ถ้ามีก็อย่าลืมดูแลเอาใจใส่และให้ความรักน้องมากๆ นะ

ที่มา boredpanda