ย้อนรอยนิวยอร์กในอดีต ดินแดนที่เต็มไปด้วยฟาร์ม ก่อนจะกลายเป็นเมืองที่เจริญที่สุดในวันนี้

ณ ตอนนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักนิวยอร์ก เพราะมันคือเมืองใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา เป็นเมืองที่เจริญที่สุดในโลก เป็นมหานครเอกของโลก และจัดได้ว่าเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การเงิน วัฒนธรรม บันเทิง ที่สำคัญที่สุดของโลกด้วย

แต่รู้มั้ยว่ากว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ พื้นที่ส่วนใหญ่ของนิวยอร์กนั้นเคยเป็นพื้นที่ทางด้านเกษตรกรรมมาก่อน โดยย้อนกลับไปช่วงต้นศตวรรษที่ 17 ที่นิวยอร์กยังคงเต็มไปด้วยฟาร์ม จนแทบไม่เชื่อเลยว่าจะกลายเป็นเมืองที่เจริญที่สุดของโลกในวันนี้

 

 

Bowery เป็นเส้นทางจราจรที่เก่าแก่ที่สุดบนเกาะแมนฮัตตัน โดยมีเมื่อชาวดัตช์เข้ามาตั้งถิ่นฐานที่นั่นในปี 1654 และได้ตั้งชื่อเส้นทางนั้นว่า Bouwerij ซึ่งเป็นภาษาดัตช์ดั้งเดิมที่แปลว่า ‘ฟาร์ม’ นั่นเป็นเพราะพื้นที่นี้เต็มไปด้วยฟาร์มปศุสัตว์ และเป็นเส้นทางเชื่อมต่อไปยังคฤหาสน์บริเวณชานเมือง ที่ปัจจุบันนี้กลายเป็นย่าน Wall Street ไปแล้ว

 

ในเวลานั้นมหานครนิวยอร์ก (รู้จักกันในชื่อเมืองนิวอัมสเตอร์ดัม) ให้ความสำคัญกับภูเขา ป่า โขดหิน ฟาร์ม และนิยมสร้างบ้านให้อยู่ห่างกัน

 

ภาพจำลองในปี 1776 ปัจจุบันคือละแวก University Heights ในย่าน West Bronx

 

ภาพจำลองปี 1862 เป็นฟาร์มสามเหลี่ยมบนฝั่งตะวันตกตอนบนของแมนฮัตตันในช่วงสงครามกลางเมือง ตอนนั้นภาษีสูงมาก ทำให้เจ้าของที่ดินแทบจะสร้างอะไรในพื้นที่ไม่ได้ และไม่มีการพัฒนาใดๆ จนถึงช่วงปี 1880

 

เหล่าแกะอาศัยอยู่ที่ทุ่งหญ้า Sheep Meadows ของ Central Park จากช่วงปี 1860 จนกระทั่งปี 1934 ก็ถูกย้ายไปยัง Brooklyn’s Prospect Park และถูกย้ายอีกครั้งไปที่ฟาร์ม Catskill Mountains ในเวลาต่อมา

 

เจ้าของแกะต้องย้ายถิ่นฐานเพราะกลัวว่าชาวนิวยอร์กที่ยากจนจะมาจับแกะเหล่านี้ไปกิน และนี่คือ Central Park’s Sheep Meadow ต้นปี 1900

 

ช่วงกลางศตวรรษที่ 19 แมนฮัตตันเริ่มขุดเนินเขาในพื้นที่ ทำลายพื้นที่เพาะปลูกและไร่นาบางส่วนเพื่อสร้างถนนเพื่อเชื่อมตัวเมือง และนี่คือภาพในปี 1869 คนงานกำลังทำการขุดเนินเขาเพื่อขยายถนน

 

และแล้วก็ถึงเวลาที่นิวยอร์กจะถูกสร้างขึ้น หลังจากที่ผ่านความเห็นชอบจากคนส่วนใหญ่แล้ว ทำให้เกิดสิ่งปลูกสร้างใหม่ๆ ที่ดูตื่นตาตื่นใจ หินที่อยู่บนเกาะถูกนำมาทำเป็นถนน และสร้างเป็นเสาเข็มของอาคารยกสูง

 

ฟาร์มของ Patrick และ Mary Brennan ภาพด้านล่างนี้ถ่ายในปี 1879 และคงอยู่จนถึงประมาณปี 1900

 

ภาพนี้ถูกถ่ายในปี 1882 จากหลังคฤหาสน์ของ George Ehret ผู้ผลิตเบียร์ที่ประสบความสำเร็จและเป็นหนึ่งในคนรวยคนแรกที่ย้ายไป Prospect Hill (ปัจจุบันคือ Carnegie Hill)

 

ภาพนี้ถ่ายโดย Peter Baab ซึ่งเขาเรียกมันว่า “ขบวนแห่งการเปลี่ยนแปลง” เริ่มมีบ้านเป็นแถวติดๆ กัน มีแมนชั่นขึ้นแทนโรงงานเก่าๆ และมีบ้านพักตากอากาศ

 

ในปลายศตวรรษที่ 19 ความเป็นสังคมเมืองเริ่มเกิดขึ้นและมีปศุสัตว์ในเมือง ทั้งสุกรและโคนม ซึ่งถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อภาพลักษณ์ของนิวยอร์กในอนาคต ชนชั้นสูงในแมนแฮตตันจึงทำการกว้านซื้อที่ดินฟาร์มแทบทั้งหมด ที่เจ้าของที่ดินส่วนใหญ่เป็นชนชั้นล่าง

 

เกษตรกรชาวไอริชที่เลี้ยงหมู ชาวสวนจากเยอรมัน รวมทั้งชาวแอฟริกันอเมริกัน ได้เข้ามาตั้งถิ่นฐานใน Seneca Village ปัจจุบันคือ Central Park แต่บ้านส่วนใหญ่ถูกทำลายในช่วงปี 1860 เพื่อทำเป็นสวนสาธารณะ

 

ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์บอกว่า ความมั่งคั่งของนิวยอร์กส่วนใหญ่นั้นนำมาลงทุนเป็นพื้นที่ของสวนสาธารณะ รวมทั้งพื้นที่สาธารณะอื่นๆ เพื่อให้เหล่าผู้หญิงที่สถานะสูงทางสังคม สามารถเดินเล่นได้โดยไม่ต้องพบปะกับคนที่มีชนชั้นที่ต่ำกว่า

 

ในภาพนี้ถ่ายในปี 1890 ถนน 94th Street ตัดผ่านเนินเขาถัดจากบ้านไร่

 

ถนนที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ช่วยดึงดูดให้ผู้คนเข้ามาอยู่ในแมนฮัตตันมากขึ้น และภายใน 20 ปี อาคารอพาร์ทเม้นต์ก็เข้ามาแทนที่บ้านไร่ทั้งหมด โดยภาพนี้ถ่ายในปี 1898

 

ถนนในนิวยอร์กเริ่มมีอาคารเกิดขึ้นอย่างหนาแน่นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 และแม้ว่าจะมีตึกแถวมากมายขนาดนี้ แต่ก็ยังมีคนไม่น้อยที่ขาดแคลนที่อยู่อาศัย

 

ส่งผลทำให้เมืองเข้าสู่การวางผังเมืองแบบ Superblocks โดยต้องรื้อถอนอาคารที่พักอาศัยส่วนหนึ่งเพื่อแทนที่ด้วยอพาร์ทเม้นต์ขนาดใหญ่ และตั้งแต่นั้นมาก็แทบจะไม่เห็นพื้นที่สีเขียวในนิวยอร์กอีกต่อไป

 

กว่าจะมาเป็นเมืองที่เจริญที่สุดในวันนี้ ผ่านอะไรมาเยอะเหมือนกันนะ

 

ที่มา businessinsider

Comments

Leave a Reply