ในแต่ละประเทศมักจะมีการปล่อยเช่ารถจักรยานเพื่อคอยบริการนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในประเทศจีนที่ดูเหมือนธุรกิจดังกล่าวนี้จะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในปีที่ผ่านมา
แต่ก็ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าธุรกิจนี้จะยั่งยืนหรือให้ผลกำไรมากน้อยแค่ไหน อย่างกรณี Wukong Bicycles ในนครฉงชิ่ง ที่เกิดความล้มเหลวหลังจากเปิดทำการไปเพียง 6 เดือนเท่านั้น
แรกเริ่มเดิมทีในธุรกิจของแอพนั้น คือการให้บริการเช่าจักรยานและแชร์จักรยานร่วมกันของลูกค้าที่ใช้บริการ แนวคิดการลดโลกร้อนด้วยการหันมาใช้จักรยานแทน สนับสนุนให้คนแบ่งปันรถที่ไม่ใช้ให้กับผู้อื่น ฟังดูดีใช่ไหมล่ะ!?
แต่ผ่านไปเพียงครึ่งปี จักรยานที่เข้าอยู่ในระบบของ Wukong กลับสูญหายไปแล้วมากถึง 90% (ทั้งสูญหายและถูกขโมย) ด้วยเหตุนี้ Lou Houyi ผู้ก่อตั้งบริษัทดังกล่าวจึงมีความจำเป็นต้องติดตั้ง GPS และกลายเป็นครั้งแรกของวงการธุรกิจในจีนที่ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก
Wukong เริ่มลงทุนด้วยจักรยาน 1,200 คัน โดยเก็บค่าเช่าจากลูกค้า แต่แล้วก็ต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ โดยให้ลูกค้านำจักรยานไปใช้ฟรีระยะหนึ่งเพื่อให้บริษัทดำเนินต่อไปได้ แต่นั่นกลับทำให้บริษัทขาดทุนถึง 14 ล้านบาท
ทั้งนี้แม้จะติดตั้ง GPS แล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้ทุกอย่างราบรื่นหรือรับประกันความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจปล่อยเช่าจักรยานในจีน
ที่ผ่านมาลูกค้ามักจะนำจักรยานที่เช่าไปจอดไว้บนทางเท้าหรือตามบริเวณพื้นที่ห้ามจอด จนตำรวจจราจรต้องยึดจักรยานเหล่านั้นไป ก่อนที่จะติดต่อไปยังผู้ปล่อยเช่า นั่นหมายความว่าทางบริษัทก็ต้องเสียค่าปรับอีก
ในขณะเดียวกัน เมืองใหญ่ๆ ในประเทศจีนก็กำลังเริ่มออกกฎหมายควบคุมธุรกิจจักรยานที่กำลังเฟื่องฟู โดยเฉพาะบริษัท Mobike และ Ofo ที่กำลังจะเปิดตัวในไม่ช้านี้ เพื่อมาเป็นอีกหนึ่งธุรกิจให้เช่าจักรยานในเมืองอื่นๆ ของจีน
และในช่วงที่ Wukong กำลังจะปิดตัวลงนี้ ทาง Mobike กลับต้องการต้องการเงินทุนอีก 3,000 ล้านบาท เพื่อเปิดธุรกิจเช่าจักรยานอย่างเต็มระบบ เราต้องคอยมาดูกันว่า Mobike จะสามารถเอาตัวรอด และไม่ล้มเหลวซ้ำรอย Wukong ได้หรือไม่…..!?
ที่มา shanghaiist
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.