เหรียญมีสองด้าน… คุณป้าเล่าอีกด้านของแฮชแท็กดัง “#เยได้ก็เลี้ยงได้” โลกไม่สวยเสมอไป…

จากประเด็น #เยได้ก็เลี้ยงได้ แฮชแท็กดังที่ได้มีการถกเถียงกันอย่างเข้มข้นอยู่ในโลกโซเชียลเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ ซึ่งมีทั้งผู้เห็นด้วยและสนับสนุน แถมยังถกเถียงกันในประเด็นของเพศศึกษา เพศสัมพันธ์ ความรักในวัยเรียน และการตั้งครรภ์โดยไม่พร้อมเป็นอย่างมาก

แต่รู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้วสังคมมันกว้างและอาจจะไม่มีอะไรด้านเดียว วันนี้มีโอกาสได้ข้อมูลจากคุณป้า ประเวศ นิศากร ถึงเรื่องราวของเธอที่ต้องมาเกี่ยวข้องกับคู่รักหนุ่มสาวที่พลาดตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร และมีผลกระทบต่อสังคมมากกว่าที่เราคิด…

แต่ความลำบากมันไม่ได้ตกไปอยู่ที่ตัวของตัวคนที่เป็นแม่ หรือครอบครัวของเธอแต่อย่างใด กลับมาสร้างความลำบากให้คุณป้า ที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือด หรือรู้จักหน้าค่าตากันมาก่อนเลยแม้แต่น้อย!?

เรื่องมีอยู่ว่า….

ป้าอยากมีโอกาสได้พูดให้คนซัก 100 คน 1,000 คน ว่าจากแฮชแท็ก #มีเพศสัมพันธ์ได้ก็เลี้ยงได้ป้าเป็นคนที่โชคร้ายโดนผลกระทบตรงๆค่ะ

ไม่ใช่ลูก ไม่ใช่หลาน ไม่ใช่สายเลือด แต่ทำไมป้าต้องมารับผิดชอบกับการกระทำของคน 2 คน ที่รักสนุก สนุกกัน 2 คน แต่หลังจากนั้น 9 เดือนต่อมา ปัญหามันมันมาตกลงที่ป้าค่ะ

19 พ.ย. 2559 มีผู้หญิงคนหนึ่ง อายุ 20 ปี ติดต่อมาหาป้าเพื่อจ้างให้ป้าเลี้ยงลูกให้ แรกๆป้าก็ไม่อยากรับ แต่คุยไป คุยมาแล้วเกิดสงสาร ก็เลยรับปากรับเลี้ยงให้

ภาพในวันนั้นยังติดตาป้าไม่มีวันลืม ภาพเด็กอายุ 20 ปี อุ้มทารก อายุ 14 วัน มาหาป้า พอเอาลูกมาให้ป้าเลี้ยง แรกๆแม่เด็กก็ยังติดต่อได้บ้าง หลังๆแม่เด็กทารกก็เริ่มหายไป เริ่มติดต่อไม่ได้ ไม่มีการจ่ายเงินค่าเลี้ยง ไม่มีการจ่ายเงินค่านมลูก ไม่มีการจ่ายเงินค่าแพมเพิส

เมื่อครบกำหนด หนูน้อยต้องรับวัคซีน ไม่มีเงินจ่ายค่าฉีดวัคซีนของลูก ลูกไม่ใช่ หลานไม่ใช่ ญาติพี่น้องก็ไม่ใช่ สุดท้าย
ด้วยความสงสารเด็ก ภาระทุกอย่างตกอยู่ที่ป้าเพียงคนเดียว

ด้วยข้อกฏหมาย ป้ากลัวว่าซักวันหนึ่งถ้าแม่เด็กหัวหมอ ย้อนกลับมาแล้วกล่าวหาว่าเราขโมยลูกของเขา ป้าเลยเริ่มออกตามหาตัวแม่ของเด็ก แต่แม่ของเด็กก็ไม่ยอมรับการติดต่อจากป้า

ความพยายามในการตามหาด้วยตัวเองหมดลง ป้าเลยประกาศตามเพจ ประกาศตามหาแม่เด็กคนนั้น

ในที่สุด มูลนิธิสหทัยยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในการตามหาแม่เด็ก แม่ของเด็กยอมรับการติดต่อจากมูลนิธิสหทัย ถึงวันนัดเจอกันระหว่างป้าซึ่งเป็นพี่เลี้ยงกับแม่เด็ก ที่กระทรวงพัฒนาสังคมและเพื่อความมั่นคงของมนุษย์ หรือเรียกสั้นๆว่า พม. ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมปรึกษาหารือ

ผลสรุปออกมาว่า

#จากการประเมินผู้ปกครองไม่มีศักยาภาพและไม่มีความพร้อมในการดูแลบุตร เด็กทารกอายุ 4 เดือน ต้องถูกส่งตัวเข้าสถานสงเคราะห์เพื่อรับการคุ้มครอง

ป้าไม่ใช่แม่เด็ก ป้าเข่าอ่อนแทบลงทั้งยืน ส่วนเงินค่าจ้างเลี้ยง ค่านม ค่าแพมเพิสและค่าใช้จ่ายต่างๆ แม่เด็กยืนยันไม่มีเงินติดตัวซักบาท

ป้าต้องก้มหน้ารับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่ผ่านมาทั้งหมดคนเดียว

ป้าอยากให้คนอีกหลายๆคนมองเห็นในมุมของป้าบ้าง

ป้าไม่เกี่ยวอะใรเลย ทำไมป้าต้องมารับรู้และโดนผลกระทบด้วย

ป้าอยากขอร้องให้คุณหนุ่ม กรรชัย เป็นกระบอกเสียง ตะโกนบอกคนซัก 100 คน 1,000 คนให้ป้าได้ไหมคะ ว่าก่อนจะมีเพศสัมพันธ์ครั้งต่อไป ป้องกันก่อนนะคะ

ป้าไม่อยากให้คนที่ไม่รู้เรื่องอะใรต้องมาร่วมชะตากรรมกับพวกคุณแบบป้าอีก

ด้วยความเคารพอย่างสูง

จาก…#ป้าพี่เลี้ยงคนที่ไม่ได้ร่วมมีเพศสัมพันธ์

ในส่วนของโพสต์ต้นฉบับ ตามลิงค์ด้านล่างครับ

โพสต์ดังกล่าวนี้ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย จนมีคนเข้ามากดไลค์ถึง 16,000 ครั้ง ร่วมแสดงความคิดเห็นกันนับร้อยคอมเม้นต์ และแชร์ไปอีกกว่า 2,300 ครั้ง เลยทีเดียว

แน่นอนว่าการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรนั้นก็สามารถป้องกันได้ด้วยการให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องเพศกับเหล่าเยาวชนอย่างที่ถูกที่ควร และอีกอย่างก็คือการคุมกำเนิด

ซึ่งจริงๆ แล้วเราอาจจะเข้าใจว่าการคุมกำเนิดนั้นคือการใช้ถุงยางอนามัยเพียงอย่างเดียว แต่เนื่องจากเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างก้าวไกลในยุคปัจจุบัน ทำให้เราสามารถคุมกำเนิดได้มากมายหลายวิธี

อยากฝากไว้ให้เป็นข้อคิดกันนะครับ…!!

ที่มา : ประเวศ นิศากร