เราทุกคนต่างล้วนเคยมีประสบการณ์การจูบยอดแย่กันมาแล้วทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นจูบแล้วไปเจอกลิ่นอาหารบ้าง เจอเศษอาหารบ้าง หรือไม่บางทีก็ต้องเจอกับคนที่จูบได้แบบว่า… ช่างไม่รู้งานเอาซะเลยโว้ย!!
และเพื่อเป็นการแก้ปัญหานิสัยการจูบอันไร้ซึ่งศิลปะ เราจะขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับ 9 เรื่องผิดๆ ที่ผู้เชี่ยวชาญเค้าออกมาแนะนำแล้วว่า ถ้าอยากทำให้การจูบมันดูดดื่มละก็ควรเลิกซะเถอะนิสัยแบบนี้ แล้วหันมาเชื่อพี่เถอะนะน้องเอ๋ย
1. ไม่จำเป็นต้องใช้ลิ้นนำเสมอไป
โมเม้นต์แห่งการจูบอาจเป็นช่วงเวลาที่เหมือนสะกดเราให้อยู่ในมนตราได้เลย ทว่ามนตรานั้นอาจหายไปทันทีเมื่อคุณรู้สึกได้ถึงการรุกเร้าที่เร่งรีบเกินไป
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าควรจะใจเย็นๆ เริ่มต้นจากการใช้ริมฝีปากสัมผัสกันก่อน และเมื่อจังหวะมาถึง (คุณจะรู้ได้เองแหละ) ค่อยเพิ่มกิมมิคด้วยการใช้ลิ้นเล่นเสริม แค่นี้ก็ทำให้ทุกอย่างออกมาดูนุ่มนวลน่าหลงใหลสุดๆ
2. อย่าทำให้ปากตัวเองกลายเป็นก๊อกน้ำเด็ดขาด!!
เป็นธรรมชาติที่ร่างกายมนุษย์เราถูกออกแบบมาให้สามารถผลิตน้ำลายได้ ทว่าบางทีการจูบกันเราก็อาจจะต้องคอยควบคุมปริมาณน้ำลายในปากไว้บ้างเพื่อความพอดี
คำแนะนำคือพยายามอย่าทำให้ปากของคู่รักคุณเปียกมอมแมมจนเกินไป และไม่ควรอ้าปากกว้างจนเกินไปเช่นกัน ควรจำเอาไว้ว่านี่คือการจูบ ไม่ใช่การกินบุฟเฟ่ต์ ถ้าไม่รีบร้อนสวาปามมากเกินไปเดี๋ยวเมนูโปรดก็มาเสิร์ฟให้เองแหละ
3. จำเอาไว้ว่าคู่ของคุณคือคนรักไม่ใช่เหยื่อ
เชื่อว่าพอจูบกันไปได้เรื่อยๆ ถึงจุดหนึ่งเราอาจจะรู้สึกร้อนรนใจจนอยากสานกิจกรรมต่อให้ไปถึงฝั่งฝัน แต่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าไม่ควรทำตัวเหมือนสิงโตตะครุบเหยื่อโดยเด็ดขาด
สิ่งที่คุณควรจะทำก็คือ.. ใจเย็นๆ ค่อยๆ ใช้เวลาไปกับมันอย่างช้าๆ ให้จินตนาการภาพของคนสองคนที่จะจับมือเข้าสู่ประตูสวรรค์ไว้ ไม่ใช่ภาพของนักวิ่งชายเดี่ยวที่ไม่สนใจเพื่อนร่วมทีมและสักแต่จะวิ่งเข้าเส้นชัยอย่างเดียว
4. ค่อยเป็นค่อยไป… อย่าใจร้อนถามหาแต่ตอนจบ
สำหรับผู้ชายแล้วการจูบอาจเป็นเหมือนหนทางที่จะนำไปสู่สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าคือ ‘เซ็กส์’ แต่งานวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ในวารสารการพัฒนาทางจิตวิทยาได้ค้นพบว่า สำหรับหญิงสาวแล้วพวกเธอคิดว่าการจูบนั้นไม่ใช่หนทางที่ต้องทำเพื่อเซ็กส์เสมอไป
เพราะฉะนั้นแล้วผู้เชี่ยวชาญจึงอยากจะแนะนำว่า ไม่จำเป็นว่าจูบกันแล้วจะต้องลงเอยด้วยเรื่องนั้นเสมอไป เพราะยังมีอีกหลายความรู้สึกดีๆ ที่จูบสามารถให้ได้มากกว่าเซ็กส์อีกนะเออ
5. พยายามอย่าทำให้เกิดเสียงรบกวนบ่อยนัก
ค่อนข้างมั่นใจว่านี่ต้องเป็นหนึ่งในปัญหาที่หลายๆ คนมักจะเจอกันตอนที่กำลังจูบกันอย่างเมามันส์ เพราะเวลาจูบอยู่ดีๆ ดันมีเสียงดันก๊อก! ขึ้นมาซะดื้อๆ
ถึงแม้ว่าบางทีเสียงแบบนี้อาจจะทำให้เรารู้สึกตลก แต่ถ้าบ่อยเกินไปอาจทำให้รู้สึกรำคาญใจและอาจส่งผลถึงการทำให้บรรยากาศอันแสนโรแมนติกกลายเป็นบรรยากาศเฮฮาไปเลยก็ว่าได้
6. หลับตาพริ้ม… แล้วทุกอย่างจะแฮปปี้ขึ้นสิบเท่า
เคยรู้สึกว่าตัวเองถูกใครซักคนจ้องมองอยู่โดยที่เรามองไม่เห็นคนๆ นั้นมั้ย? นี่อาจเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับอีกฝ่ายได้ถ้าหากคุณจูบกันแบบจ้องตาใส่กันอย่างถมึงทึง
เชื่อเถอะว่าบางทีประสาทการมองผ่านสายตาเราอาจไม่จำเป็นซักเท่าไหร่ โดยเฉพาะตอนที่เรากำลังเอาริมฝีปากประกบกับคนที่เรารู้สึกดีด้วย ถ้าคุณไม่เคยลองวิธีนี้มาก่อนคราวหน้าให้ลองหลับตาดูสิแล้วจะรู้ว่าสวรรค์มีจริง
7. จูบที่ริมฝีปากเป็นเรื่องดี… แต่ก็ไม่ควรจะย่ำอยู่กับที่นะพ่อคุณ
ไม่เคยมีใครออกกฎหมายมาว่าการจะจูบกันได้ต้องเน้นที่ริมฝีปากเท่านั้น เพราะฉะนั้นแล้วก็อย่าไปยึดติดกับบริเวณนั้นมากเกินไปนัก
อ้างอิงจากหนังสือ ‘The Book of Kissing’ ได้ระบุไว้ว่า ผู้หญิงรู้สึกชอบที่จะถูกจูบในส่วนอื่นๆ ของร่างกายด้วยที่นอกเหนือจากริมฝีปากไม่ว่าจะเป็น คอ หู แก้ม หรือไหล่ เรียกได้ว่าลองเปลี่ยนจุดเพื่อทำให้พวกเธอแปลกใจดูบ้างอะไรบ้างนะ
8. ปัญหาเรื่องฟันๆ ใครว่าไม่สำคัญ
บ่อยครั้งที่เราอาจจะเจอคนที่ชอบจูบแล้วกัดตาม หรือไม่ก็คนที่ชอบจูบแล้วดันเอาฟันคู่หน้ามาชนกับฟันของเรา แทนที่มันจะเป็นช่วงเวลาโรแมนติกกลับกลายเป็นช่วงเวลาแห่งความหยึ๋ยๆ ยังไงก็ไม่รู้ไปซะได้
ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญจึงอยากจะแนะนำว่า ถ้าหากคุณอยากจะขบเบาๆ ที่ริมฝีปากละก็.. นั่นอาจจะทำให้อารมณ์ซู่ซ่าขึ้นมาได้เลย แต่ต้องระวังไม่ให้รุนแรงจนเกินไป และจงตระหนักถึงความเป็นสุภาพชนไว้เสมอ
9. สิ่งสำคัญ.. อย่าลืมที่จะหายใจ
หนึ่งในปัญหาใหญ่ของคู่รักเวลาจูบกันก็คือปัญหาเรื่องลมหายใจนี่แหละ บางคู่อาจจะรู้สึกชอบกลิ่นลมหายใจของกันและกัน แต่บางคู่อาจจะรู้สึกว่าช่างเป็นอะไรที่ไม่น่าสุนทรีย์เอาซะเลย
ผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำว่าถ้าหากคุณสองคนกำลังเผชิญปัญหานี้อยู่ อาจจะเป็นไปได้ว่าตำแหน่งที่จมูกของทั้งคู่มาชนกันยังไม่ใช่ตำแหน่งที่เหมาะสมนัก
หรือถ้าหากว่าคุณรู้สึกว่าตำแหน่งการจูบนั้นพอดีแล้ว แต่ยังหายใจไม่ออกเราอาจจะแอบพักเบรคทีละช่วงก็ได้นะ เพราะยังไงคู่รักของเราก็ไม่หนีเราไปไหนอยู่แล้ว
หวังว่าคำแนะนำทั้งหมดนี้จะช่วยทำให้ ‘จูบ’ ของหลายๆ คนดูดดื่มมากขึ้นน๊าาา
ที่มา: Thisisinsider
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.