ท่ามกลางกระแสข่าวคราวเกี่ยวกับมาตรการควบคุมสื่อที่กำลังเป็นประเด็นร้อนในบ้านเรา เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมารัฐสภาเยอรมนีก็ได้ประกาศใช้กฎหมายฉบับใหม่ที่เชื่อว่าจะสามารถแก้ปัญหา Hate Speech จากสื่อโซเชียลได้เช่นกัน
โดยข้อกฎหมายใหม่นี้มีชื่อว่า ‘Network Enforcement Act’ ซึ่งเป็นกฎหมายที่ถูกนำมาใช้ควบคุมไม่ให้เกิดปัญหา Hate Speech บนสื่อโลกโซเชียลโดยเฉพาะกับบริษัทที่มียอดผู้ใช้งานมากเกินกว่า 2 ล้านคน
ตัวกฎหมายระบุไว้ว่า ไม่ว่าผู้ให้บริการจะเป็น YouTube, Facebook หรือ Twitter ถ้าหากได้รับแจ้งให้มีการลบข้อความที่เข้าข่าย Hate Speech และไม่ดำเนินการภายใน 24 ชม. จะถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
สำหรับการไม่ยอมลบข้อความ Hate Speech ภายในระยะเวลาที่กำหนดนั้น มีโทษปรับขั้นต่ำ 5 ล้านยูโร (ประมาณ 200 ล้านบาท) และสูงสุดถึง 50 ล้านยูโร (ประมาณ 2,000 ล้านบาท) ซึ่งถือเป็นเงินที่สูงมาก
สำหรับข้อความหรือเนื้อหาที่เข้าข่ายรุนแรงแต่ไม่ชัวร์ว่าผิดกฎหมายหรือไม่ จะมีกระบวนการตรวจสอบภายใน 7 วัน โดยทีมตรวจสอบที่ตั้งขึ้นมาเป็นการเฉพาะ
ทั้งนี้ด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ และบทเรียนต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นกับประเทศเยอรมนีในอดีต อาจเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้พวกเขาต้องเข้มงวดในเรื่องของ Hate Speech มากเป็นพิเศษ
ทว่าตัวข้อกฎหมายยังกลายเป็นที่ถกเถียง เนื่องจากกฎหมายฉบับนี้ถูกโจมตีเรื่องการเซ็นเซอร์สื่อและอาจผิดต่อกฎหมาย EU รวมทั้งยังมีเรื่องของปัญหาขอบเขตการใช้กฎหมาย เช่น จะทำอย่างไรหากมีการโพสต์ข้อความ Hate Speech จากคนเยอรมันที่อยู่นอกประเทศเป็นต้น
หลังมีการเพิ่มกฎหมาย มีเพียง “เฟซบุ๊ก” บริษัทเดียวเท่านั้นที่รายงานว่าพร้อมจ้างพนักงานเพิ่มกว่า 3,000 คน เพื่อตรวจสอบปัญหาดังกล่าวโดยเฉพาะ
บทลงโทษค่าปรับโหดมาก ชนิดที่ว่าโดนปรับทีนี่ถึงกับล้มละลายได้เลยนะเนี่ย!!
ที่มา: nakedsecurity
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.