พาไปชิมร้านเด็ดๆ ทั่วลอนดอน ที่คุณจะเต็มอิ่มกับภาพอาหารสุดอลังการ ที่เห็นแล้วต้องหิว!!!

ใครที่ชื่นชอบในความเป็นผู้ดีอย่างประเทศอังกฤษ ต้องไม่พลาดบทความนี้เลย เพราะเราจะพาเพื่อนๆ ไปตามติดสาวสวย Poon Onnicha หรือคุณข้าวปุ้น ที่ได้แชร์ประสบการณ์ความอร่อยในครั้งที่ได้ไปเที่ยวอังกฤษกับครอบครัว เมื่อช่วงปลายพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเธอได้โพสต์เกี่ยวกับร้านอาหารสุดน่าทาน ใน 7 วันที่เธอได้ไปอังกฤษ จะน่าอลังการและน่ากินขนาดไหนเราไปชมกันเลย

 

Day 1:
เริ่มที่ร้านแรก Polo Bar, The Great British Cafe
พิกัด Tube Liverpool Street

 

เป็นร้านอาหารเช้าที่เก๋เอามากๆ โดยชั้นล่างจะเป็นเเกลอรี่ ที่ดูแวววาวน่าทานมากๆ เลยทีเดียว

.

 

ชั้นสองก็จะเป็นโต๊ะทานอาหาร

.

.

 

ส่วนนี้คืออาหาร All Day Breakfast จานใหญ่น่าทานมากๆ

.

 

จานนี้เป็นของคุณข้าวปุ้นเอง ซึ่งมันคือ Smoked Salmon with Egg Benedict จานนี้มีราคา 10 ปอนด์ หรือประมาณ 400 บาทจ้าา

 

Beef Steak เสิร์ฟกับมันฝรั่งทอดและสลัด น่าทานใช่ไหมล่ะ!!

.

 

ร้านที่ 2 ของวัน โดยคุณข้าวปุ้นก็ได้เดินเที่ยวจนมาเจอร้านเป็ดโฟร์ซีซั่นอันเลื่องชื่อ ในย่าน Chinatown ของ London

 

อือหืออออออ

 

เริ่มที่ Ma Po Beancurd with mince beef ราคา 9 ปอนด์ หรือประมาณ 400 บาท ข้างหลังเป็นข้าวผัดรสชาติก็จะอร่อยแบบจีนๆ มันๆ หน่อย แต่อร่อยดีนะ

 

พระเอกของเราก็คือเป็ดโฟร์ซีซั่นนี่เอง Roasted Duck (Half) ราคาประมาณ 14-15 ปอนด์ หรือประมาณ 600 บาท เป็ดก็อร่อยดี ส่วนน้ำราดออกหวานคล้ายๆ บ้านเรา

 

จากนั้นก็ไปเดินเที่ยวที่ Chinatown กันต่อ ผ่านร้านหนึ่งก็ต้องตกใจเพราะคิวยาวมากๆ มันคือร้าน Bubblewrap แอบส่องๆ ดูรู้สึกจะเป็นวาฟเฟิลฮ่องกงห่อด้วยไอศกรีม แต่คุณข้าวปุ่นขอบายนะเพราะคิวยาวเหลือเกิน

ส่วนนี้เป็นขนมปลาไส้ครีม อันนี้ซื้อในซุปเปอร์มาเก็ตจีน เขาทำสดๆ เลย กลิ่นหอมดีเลยลองซื้อมาชิม

 

Day 2:
วันที่สองพวกเราซื้อทัวร์แบบ One day trip ไว้ค่ะ
ตัดสินใจว่าจะไป Windsor Castle, Stonehenge and Bath โดย Golden tour
ราคาทัวร์ประมาณ 100 ปอนด์/ท่าน หรือ 4400 บาท แต่ได้เที่ยวทั้งวัน+อาหารเที่ยงเลยคิดว่าคุ้มดี

จุดรวมพลอยู่ที่สถานี Victoria เช้าแบบนี้เลยขอจิบ Hot Chocolate เบาๆ ซะหน่อย

 

นี่คือไอศกรีมที่ซื้อใน Windsor Castle น่าจะ 3 ปอนด์/130 บาท  ต่อสกู๊ป ซึ่งคนขายเป็นคุณป้าน่ารักมากๆ แอบพูดถึงไทยแลนด์ให้ฟังด้วยว่า ลูกป้าไปอยู่ตั้งหลายวีคไม่ยอมกลับซะที

 

ในส่วนของมื้อเย็นนั้นคุณข้าวปุ้นแวะร้าน Nando’s แถวๆโรงแรม
ร้านนี้เค้าดังเรื่องไก่ย่างสไตล์แบบร้าน Piri Piri จุดเด่นมีน้ำจิ้มให้เลือกเยอะมากๆ ไล่ไปตามระดับความเผ็ด

 

แค่ครึ่งตัวก็ทานได้ตั้งสองคนแล้วล่ะ

 

Day 3:
วันนี้อากาศดี ตั้งใจว่ามื้อเที่ยงจะไปเดินเล่นตลาดชื่อดังอย่าง Borough Market
ตลาดที่ขึ้นชื่อว่าของกินอร่อย จะเป็นแนวสตรีทฟู้ดนะคะ มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

.

.

 

เอ๊ะ!! ขนมครกจากไทยก็มีนะ

 

เบอร์เกอร์กับไส้กรอกน่ากินมากๆ

.

.

 

French Macaron ชิ้นละ 1.30 ปอนด์/57 บาท เท่านั้น

.

.

.

 

 Fish & Chips ใครไม่กินถือว่ามาไม่ถึงอังกฤษ

 

อันนี้เป็นอาหารของคุณพ่อของคุณข้าวปุ้น เป็นอาหารแขกราดบนข้าว รสชาติก็แนวๆ เครื่องเทศ

 

อีกหนึ่งเมนูที่ห้ามพลาด! Oyster สดๆ ชอบมาก

 

ผลไม้และน้ำผลไม้ให้เลือกเยอะมาก

 

น้ำส้ม+สับปะรดคั้นสดและผลไม้ตระกูลเบอร์รี่รวม แก้วละประมาณ 3 ปอนด์ อร่อยทั้งคู่เลย
ปล.แนะนำว่ามาอังกฤษต้องกินพวกเบอร์รี่ เพราะถูกและหวานอร่อยมากๆ

 

Olivier’s Bakery London ชอบบราวนี่ร้านนี้มากค่ะ จะออกรสเข้มไม่หวานเกินไป

 

Bath Soft Cheese Ice cream  เขาบอกว่าใช้นมออร์แกนิคทำ ราคา Scoop ละ 2.50 ปอนด์

 

คุณข้างปุ้นเลือก Salted Caramel แต่ค่อนข้างหวานเลยนะ ถ้าลดหวานลงจะดีมากๆ

 

Day 4:
อีกหนึ่งร้านสุดฮิตที่คนไทยต้องแวะมาเช็คอินในลอนดอน Burger & Lobster นั่นเองงง!!
มีหลายสาขาให้เลือกชิม

วันนี้เลือกมาสาขาในห้าง Harvey Nichols (อยู่ใกล้ๆ Harrods )
ขึ้นลิฟต์มาก็เจอเลยค่ะ มาช่วงกลางวันคนไม่เยอะเท่าไหร่

 

สั่งมาสามเมนูดังนี้
Grilled Lobster ที่ต้องสั่งทุกโต๊ะค่า (เลือกได้ว่าจะ Steam or Grill)

 

เมนูถัดมาเป็น Lobster Roll เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียง

 

จานสุดท้ายเป็นเบอร์เกอร์เนื้อ

.

 

เดินออกมานอกร้านก็เจอเลยกับร้าน Bubbleology ชานมไข่มุกชื่อดังนั่นเอง

 

คุณข้าวปุ้นเลือกเป็นชานมไข่มุกและชาเขียวไข่มุก (less sugar)
ส่วนตัวคิดว่าไม่อร่อย สั่งหวานน้อยแต่ก็ยังหวานอยู่ดี ไข่มุกก็ธรรมดา ราคาก็แพง
เราว่าชานมไข่มุกหลายๆร้านในไทยอร่อยกว่าเยอะเลย

 

Day 5:
วันนี้มาเที่ยวชมสนามฟุตบอล Stamford Bridge Stadium (ปลื้มปริ่มมม)
กว่าจะเสร็จก็เที่ยงพอดี เลยลองเสิร์ซหาร้านอาหารไทยอร่อยๆ จาก Tripadvisor

สรุปว่าเจอร้าน Addie’s Thai สถานี Tube Earl’s Court ไม่ไกลจากที่นี่ เมนูแรกเปิดกระเพราไก่ก่อนเลย เมนูประจำร้านตามสั่ง มันเผ็ดได้ใจมาก ทานกับข้าวสวยร้อนๆเด็ดเฟร่อออ

 

จานที่สองเป็นผัดไทยกุ้งสดค่า รสชาติเหมือนทานที่ไทยเลย อร่อยอีกแล้ว

 

สุดท้ายเป็นส้มตำคอหมูย่าง เผ็ดซี๊ดซ้าดทีเดียวค่ะ

สรุปคือร้านนี้ให้ผ่านค่ะ บริการดีอาหารอร่อย ใครมาเที่ยวแล้วคิดถึงอาหารไทย แวะมาทานกันได้นะ

 

ตอนเย็นๆ คุณข้าวปุ้นแวะมาเดินเล่นแถว Soho โดนพี่สาวลากมากินอาหารเกาหลี Assa Korean Restaurant เขาว่ากันว่าฮิตในหมู่วัยรุ่นที่นี่

 

Hot Pot มาแล้วๆ มันเหมาะมากถ้ามาทานช่วงหน้าหนาว

 

Bibimbub

Japchae เป็นวุ้นเส้นผัดสไตล์เกาหลี กับอีกจานเป็นเต้าหู้ผัดกิมจิ

 

ตามด้วยของหวานเช่นเคย Tsujiri ไอศกรีมชาเขียวชื่อดัง มีในไทยที่ Emqaurtier ไปลองได้

 

ชานมไข่มุกอีกแล้ว Chatime สั่งแบบหวานน้อยก็ได้หวานน้อยจริงๆ เยี่ยมไปเลย

 

Day 6:
อีกหนึ่งสถานที่ที่พลาดไม่ได้ ถ้าคุณเป็นสาวกพ่อมดน้อย Harry Potter
นั่นก็คือ Warner Bros. Studio tour London นั่นเอง

 

แฟนๆต้องไม่พลาด Butter Beer ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ เด็กๆดื่มได้
รสชาติเอาตรงๆ ว่าหวานมาก ตัวฟองด้านบนมันจะเป็นครีมๆ หน่อย
ชิมให้รู้ว่าครั้งหนึ่งในชีวิตเคยกินแล้วนะ ฮ่าๆ

 

Soft serve ดับร้อนซักหน่อย

 

ช่วงบ่ายแก่ๆ ก็กลับเข้าเมืองลอนดอน และแวะทานอาหารที่ร้าน Lao Cafe, Covent Garden

 

มีอาหารลาวให้เลือกเยอะเลย อาหารก็คล้ายๆ กับภาคอีสานบ้านเรา ตกจานละประมาณ 8-10 ปอนด์ อันนี้เป็นแบบปลาเผาๆ ทานกับผักสดและขนมจีนด้านหลังเป็นส้มตำไข่เค็มจ้า

 

 

คอหมูย่าง มีไส้อั่วและลาบหมู

 

Day 7:
วันสุดท้ายของทริป

ร้านแรกของวัน เพราะคุณข้าวปุ้นต้องกลับในช่วงค่ำๆ เลยเสิร์ซหาร้านอาหารญี่ปุ่นที่อยู่ใกล้ๆ จึงพบร้านนี้ Eat Tokyo, Notting Hill Gate

 

อุด้ง

 

ข้าวหน้าปลาดิบรวม

 

Grilled Salmon Bento set

สรุปแล้วร้านนี้อร่อย ครอบครัวคุณข้าวปุ้นให้ผ่าน ราคาไม่สูงเว่อร์มาก ถ้ามาอีกจะกลับไปซ้ำแน่นอน

 

แถมรูป Hot Chocolate ซื้อตอนไปเดินเล่นใน Hyde Park แอบหวานนิดหน่อย เลยขอให้เค้าเติมน้ำร้อนเพราะหวานไป คนขายน่ารักมากเติมนมร้อนให้แทน

 

จบทริปนี้อย่างสวยงาม คุณข้าวปุ้นก็กลับกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ ภาพเหล่านี้ทำเราหิวสุดๆ ไปเลยนะ ใครที่มีโอกาสได้ไปเที่ยวที่อังกฤษก็สามารถแชร์ภาพความประทับใจแบบนี้ได้นะ

ที่มา Poon Onnicha

Comments

Leave a Reply