เงินมักจะเป็นปัจจัยที่เปลี่ยนจิตสำนึกของมนุษย์ ที่ทำให้มนุษย์ยอมทำทุกอย่างเพื่อแลกกับเงินโดยไม่คำนึงถึงหลักศีลธรรมหรือความถูกต้องใดๆ ทั้งสิ้น
เหมือนชาวบ้านที่อยู่ใกล้กับเขตป่าสงวนของอินเดีย ที่ถูกกล่าวหาว่าส่งคนเฒ่าคนแก่เข้าไปในป่าเพื่อเป็นอาหารให้เสือ โดยหวังจะเรียกร้องค่าชดเชยจากรัฐบาล
กระบวนการดังกล่าวนี้ได้ถูกค้นพบโดยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานควบคุมอาชญากรรมสัตว์ป่า Wildlife Crime Control Bureau (WCCB) ในรัฐอุตตรประเทศของอินเดีย หลังพบหลักฐานที่ผิดสังเกต ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ใกล้กับถิ่นที่อยู่ของเสือ
กรณีล่าสุดได้รับรายงานเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2017 โดยพบศพหญิงชราวัย 55 ปี ในทุ่งที่ใกล้กับหมู่บ้านของเธอ แต่ชิ้นส่วนเสื้อผ้ากลับถูกพบห่างออกไปอีก 1 กิโลเมตร ซึ่งอยู่ในเขตที่อยู่ของเสือ
นอกจากนี้หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่าร่างของหญิงชราคนดังกล่าวได้รับการโยกย้ายมาก่อนที่เจ้าหน้าที่จะรู้
เสือในเขตสงวน Pilibhit จะถูกปล่อยให้อยู่ตามธรรมชาติอย่างอิสระ ซึ่งทุกคนในพื้นที่ต่างก็รู้กันอยู่แล้ว ดังนั้นหากมีคนที่จงใจเข้าไปในเขตของเสือ แม้ถูกทำร้ายหรือเสียชีวิตก็จะไม่รับเงินเยียวยาจากรัฐบาล
แต่หากถูกทำร้ายหรือเสียชีวิตนอกเขตป่าสงวน ครอบครัวของพวกเขาจะได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาล…
หลังที่จากที่มีรายงานเกี่ยวกับผู้สูงอายุที่ถูกเสือโจมตีเสียชีวิต ปรากฎว่ายอดคนชราที่เสียชีวิตเพราะถูกเสือขย้ำก็พุ่งขึ้นสูงผิดปกติ โดยเฉพาะในเดือนกุมภาพันธ์ที่เสียชีวิตไป 7 คน จนเจ้าหน้าที่เริ่มสงสัยว่าอาจจะไม่ใช่อุบัติเหตุแล้ว
ด้วยเหตุนี้เจ้าหน้าที่จากหลายๆ ฝ่ายจึงได้รวบรวมหลักฐานเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวจนพบว่า ชาวบ้านจงใจส่งสมาชิกผู้สูงอายุในชุมชนเข้าไปในป่าเพื่อเป็นอาหารให้กับเสือ เพราะหวังจะได้เงินค่าชดเชยจากรัฐบาล
เมื่อสอบถามแทนที่ชาวบ้านจะปฏิเสธ พวกเขากลับบอกว่าผู้สูงอายุเหล่านั้นอาสาเดินเข้าไปในป่าด้วยตัวเอง เพื่อให้ครอบครัวของพวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้น
ในขณะที่นาย Jarnail Singh วัย 60 ปี บอกกับเจ้าหน้าที่ว่า “คนแก่จะคิดว่าตัวเองไม่สามารถหาเลี้ยงครอบครัวได้ ดังนั้นนี่จึงเป็นหนทางเดียวที่ช่วยครอบครัวหนีจากความยากจนได้”
แต่ทางด้าน Kalim Athar เจ้าหน้าที่ของ WCCB ได้พบข้อสรุปที่น่าตกใจหลังการสอบสวน ซึ่งตรงกับข้อกล่าวหาที่บอกตอนต้นคือ ชาวบ้านจงใจส่งคนชราเข้าไปในป่าจริงๆ
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ได้ถูกส่งไปยังหน่วยงานอนุรักษ์เสือแห่งชาติเพื่อดำเนินการต่อไป และหวังจะหาทางออกให้กับเรื่องนี้ได้
ที่มา odditycentral, timesofindia
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.