ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา รัฐเนวาด้าได้กลายเป็นรัฐที่ 5 ของประเทศสหรัฐฯ ที่มีการอนุญาติให้จำหน่ายกัญชาได้อย่างถูกกฎหมาย (เนวาด้าประกาศให้กัญชาถูกกฎหมาย)
เรียกได้ว่าระยะเพียงไม่ถึงสองสัปดาห์ รัฐเนวาด้าก็ต้องออกมาตรการฉุกเฉินเพิ่มร้านขายกัญชา หลังสินค้าขายดีเทน้ำเทท่าจนขาดตลาด และช่วยสร้างภาษีให้รัฐได้เฉลี่ยวันละ 500,000 เหรียญเลยทีเดียว (ราว 17 ล้านบาท)
รัฐเนวาด้ามีนักท่องเที่ยวมากกว่า 42 ล้านคนต่อปี โดยมองว่าในอนาคตลาสเวกัสอาจจะกลายเป็นเมืองแห่งกัญชาที่แซงหน้ากรุงอัมสเตอร์ดัมไปเลยก็ว่าได้
The Nevada Tax Commission ได้รายงานว่า จากวันแรกที่มีการประกาศให้กัญชาถูกกฎหมายจนถึงล่าสุดนี้ รัฐบาลสามารถเก็บภาษีส่วนนี้ได้สูงถึงราววันละ 500,000 เหรียญ และในระยะเวลา 6 เดือนภาษีจากกัญชาอาจช่วยสร้างรายได้ให้สูงถึง 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เลยทีเดียว
ทว่าล่าสุดความคล่องตัวในการค้าขายก็เริ่มติดขัด เมื่อความต้องการซื้อมีมากเกินกว่าที่ร้านค้าจะนำมาขายได้ในแต่ละวัน
ทำให้ทางการต้องออกมาตรการฉุกเฉินมาใหม่ โดยจะกำหนดให้เริ่มใช้ในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ โดยเนื้อหามาตรการฉุกเฉินนี้ได้ระบุให้ร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สามารถนำกัญชามาวางขายได้
“อ้างอิงจากผลการรายงานพบว่า ตอนนี้ความต้องการซื้อของกลุ่มผู้ใช้มีสูงเกินกว่าที่เราเคยคาดการณ์ไว้ และตอนนี้ตลาดกัญชาในรัฐในเนวาด้ากำลังไปได้สวย และเราเชื่อว่ามาตรการตัวใหม่นี้น่าจะรองรับความต้องการของผู้ซื้อในตลาดได้” Riana Durrett จากสมาคมผู้ประกอบการร้านยาให้สัมภาษณ์
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมองว่าตลาดกัญชายังเป็นตลาดที่เติบโตได้อย่างไม่สิ้นสุด และมีจำนวนเม็ดเงินหมุนเวียนอยู่อย่างมหาศาลหลังมีการถอดกัญชาออกจากโทษทางกฎหมาย และสามารถค้าขายได้อย่างเสรี
นอกเหนือจากภาษีจำนวนมากที่รัฐสามารถนำไปทำประโยชน์ได้แล้ว ‘กัญชา’ ยังช่วยสร้างโอกาสในการทำงานให้กับผู้คนอีกจำนวนมาก อ้างอิงจากผลสำรวจตลาดแรงงานและรายชื่อผู้ประกอบการที่แห่แหนกันเข้ามาลงทะเบียนขอใบอนุญาตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
อีกหน่อยใครไปเที่ยวลาสเวกัส คงได้เห็นชาวเมืองทำตาหวานกันทั้งเมืองแน่ๆ
ที่มา: Fox, lasvegassun
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.