Sarah Joyce สาววัย 30 ปี จากนิวเซาธ์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เรื่องราวของเธอได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ป่วยทั่วโลกลุกขึ้นมาต่อสู้กับโรคร้ายที่ตัวเองกำลังเผชิญอยู่
“คืนวันหนึ่งฉันมีไข้ตัวร้อน และก็คิดว่าตัวเองคงป่วยเป็นไข้ปกติทั่วไป แต่อาการกลับแย่ลงเรื่อยๆ จนฉันไปถึงมือหมอถึงได้พบว่าชีวิตตัวเองต้องเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงหลังจากนั้น…” Sarah กล่าว
Sarah Joyce ในช่วงที่เธอยังสุขภาพแข็งแรง
แพทย์ได้วินิจฉัยว่าเธอป่วยเป็นโรค ‘ไข้กาฬหลังแอ่น’ ซึ่งหลังจากนั้นชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไป จากเดิมที่เธอเคยเป็นผู้หญิงวัยทำงาน เธอต้องเปลี่ยนมาเข้าออกโรงพยาบาลเพื่อผ่าตัดรักษาอาการป่วยของตัวเองแทน
จากอาการป่วยติดเชื้อขั้นรุนแรง ทำให้คุณหมอต้องผ่าตัดนำ ถุงน้ำดี, ไต 2 ข้าง และลำไส้กว่า 80% ของเธอออกไป
“ทุกวันนี้ฉันไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายให้คล่องแคล่วเหมือนเมื่อก่อน หลังการผ่าตัดครั้งใหญ่ฉันต้องตื่นมาพบว่าตัวเองต้องอาศัยอยู่ด้วยท่อออกซิเจน แต่ยังไงฉันก็จะขอสู้ต่อไป..”
ช่วงที่อาการเธอทรุดหนัก คนรอบตัวเธอต่างรู้สึกหมดหวัง และไม่มั่นใจว่าเธอจะทำได้
จากการผ่าตัดเพื่อต่อสู้กับเชื้อร้ายหลายครั้ง ทำให้เธอต้องเข้ารับการกายภาพบำบัดใหม่ทั้งหมด
“อันที่จริงแล้วอายุฉันหยุดไว้แค่อายุ 30 ปี 1 วันเท่านั้นแหละ เพราะที่เหลือจากนั้นฉันไม่ได้ใช้ชีวิตเลย แต่กำลังต่อสู้เพื่อกลับมาใช้ชีวิตต่างหากล่ะ” เธอกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
สุดท้ายเธอฝากเอาไว้ว่า สาเหตุที่เธอนำเรื่องราวทั้งหมดนี้มาแชร์ก็เพราะเธออยากให้ทุกคนได้รู้ว่าโรค ‘ไข้กาฬหลังแอ่น’ เป็นโรคที่อาจเกิดขึ้นได้กับทุกคนเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นกับเธอ..
“ข้อดีคือ รอบตัวคุณจะเต็มไปด้วยคนที่เข้ามาเพราะเป็นห่วงคุณจริงๆ ตอนนี้ชีวิตฉันในแต่ละวันมันช่างแตกต่างกันอย่างมาก และไม่มีวันรู้เช่นกันว่าพรุ่งนี้จะต้องเจอกับอะไรบ้าง…”
เป็นผู้ป่วยที่มองโลกในแง่ดีที่สุดเท่าที่เราเคยเจอมาเลยนะเนี่ย ขอพลังจงอยู่กับเธอ และเอาชนะโรคร้ายให้ได้น๊าา
ที่มา: Dailymail
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.