คุณเคยจินตนาการว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในสถานะการณ์คับขันชนิดเกือบเอาชีวิตไม่รอดกันบ้างไหม?? ในสถานะการณ์ดังกล่าว การควบคุมสติและไหวพริบในการเอาตัวรอดนั้นมีความสำคัญอย่างมาก
และเรื่องราวของชายหนุ่มท่านนี้ก็เช่นกัน เมื่อเขาต้องตกอยู่ในสถานะการณ์ที่ยากลำบากใต้ท้องทะเล และต้องอยู่แบบไม่มีออกซิเจนนานถึง 2 วัน!!
ย้อนไปเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว คุณ Xisco Gràcia ต้องพบกับประสบการณ์ที่เสี่ยงตายที่เปรียบเสมือนฝันร้าย เมื่อเขาต้องติดอยู่ในถ้ำใต้ทะเล เพียงลำพังและไม่มีอุปกรณ์ยังชีพใดๆ เลย นานถึง 60 ชั่วโมง
อาจารย์สอนธรณีวิทยา ผู้ชื่นชอบการดำน้ำเป็นชีวิตจิตใจ เขาและคู่หูได้เดินทางมายังเกาะมายอร์กา (Mallorca) สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของสเปน ที่นี่มีถ้ำใต้น้ำที่ใหญ่และคดเคี้ยวราวกับเขาวงกต ชายหนุ่มและเพื่อนของเขาหวังจะพิชิตถ้ำนี้ให้ได้
เมื่อวันที่ 15 เมษายน ชายหนุ่มและเพื่อนของเขาคุณ Guillem Mascaró ได้ดำลงไปสำรวจถ้ำใต้เขาวงกตทะเลที่ชื่อว่า Sa Piqueta ซึ่งมีความยาวจากปากถ้ำถึงส่วนที่เป็นเขาวงกตประมาณ 1 กิโลเมตร พวกเขาใช้เวลากว่ชั่วโมงในการดำน้ำเพื่อมายังถ้ำแห่งนี้
ในระหว่างการสำรวจ ทั้งสองแยกย้ายกันออกเก็บตัวอย่างของหิน แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ในระหว่างที่กำลังสำรวจถ้ำอยู่นั้นพวกเขาบังเอิญว่ายน้ำมาชนกันเข้า จึงทำให้ตะกอนที่อยู่ใต้ทะเลฟุ้งกระจายขึ้นมาและทำให้ทั้งสองมองไม่ห็นทาง
ทั้งสองพยายามจะกลับไปที่ปากถ้ำด้วยการตามเส้นเชือกที่ขึงเอาไว้ แต่โชคร้ายที่พวกเขาหามันไม่พบ ตอนนี้ทั้งคู่ตกอยู่ในสถานกาณ์ที่ยากลำบากแล้ว
ทั้งสองมีออกซิเจนไม่เพียงพอสำหรับการว่ายออกไปยังปากถ้ำ และออกซิเจนสำรองของพวกเขาก็หมดแล้ว!!
แต่แล้วคุณ Gràcia ก็นึกขึ้นได้ว่าเคยได้ยินนักดำน้ำคนอื่นๆ พูดถึงห้องที่มีอากาศอยู่ภายในถ้ำแห่งนี้ (air pocket) ทั้งสองจึงตัดสินใจที่จะว่ายไปที่ห้องนั้น
แต่แล้วเมื่อพวกเขามาถึงก็พบว่า ห้องดังกล่าวมีอากาศเพียงพอสำหรับแค่คนเดียว!!
ชายหนุ่มวัย 57 ปีตัดสินใจที่จะอยู่ภายในห้องนี้เพียงลำพังและให้เพื่อนของเขาใช้ออกซิเจนที่เหลือทั้งหมดว่ายออกไปขอความช่วยเหลือจากด้านนอก
เนื่องจากเพื่อนของเขาเป็นคนตัวเล็กและใช้ปริมาณออกซิเจนน้อยกว่า และตัวเขาเองนั้นมีความเชี่ยวชาญในการอาศัยอยู่ในที่ที่มีปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูงๆ
ในระหว่างที่รอคอยความช่วยเหลือ คุณ Gràcia ออกสำรวจภายในถ้ำขนาด 80×20 เมตร และมีเพดานสูงจากน้ำประมาณ 12 เมตร ชายหนุ่มค้นพบแผ่นหินสำหรับนั่งพัก และร่องน้ำจืดที่ไหลลงมา
Gràcia ต้องอาศัยอยู่ในความมืดเพราะแบตเตอร์รี่ของไฟฉายที่เหลืออยู่นั้นได้หมดลงแล้ว การอยู่เพียงลำพังในความมืดมิดทำให้เขาเกิดความคิดต่างๆ มากมาย
“ตอนนั้นผมกังวลมาก ผมกลัวว่าเพื่อนของผมจะหาทางออกไม่เจอ หรือเขาอาจจะขาดออกซิเจนตายแล้วก็ได้ และตัวผมนั้นก็อาจจะต้องตายอย่างช้าๆ ในถ้ำนี้โดยที่ไม่มีใครรู้” อาจารย์สอนธรณีวิทยาวัย 57 ปี กล่าว
และถึงแม้จะพยายามทำให้ความกังวลวงบลงได้ แต่ด้วยปริมาณของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในถ้ำที่มีมากถึง 5 เปอร์เซ็นต์ซึ่งมากว่าอากาศภายนอกถึง 125 เท่า ทำให้เขาเกิดอาการเมื่อยล้าและมองเห็นภาพหลอน ชายหนุ่มเล่าว่าบางครั้งเขามองเห็นฟองอากาศและแสงสว่างคล้ายกับทีมช่วยเหลือ แต่สุดท้ายทั้งหมดก็กลายเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น
และหลังจากนั้นอีกหลายชั่วโมงผ่านไป เขากลับได้ยินเสียงคล้ายกับเครื่องจักรกำลังขุดเจาะที่หินเหนือศรีษะของเขา และเสียงคล้ายกับการมีใครบางคนกำลังเอาถังออกซิเจนมาช่วยเขา แต่สักพักเสียงเหล่านั้นกลับหายไปทิ้งชายหนุ่มไว้กับความมืดมิดและความสิ้นหวัง
“ตอนนั้นมันสิ้นหวังมากๆ ผมตัดสินใจว่ายไปหยิบมีดในกองสัมภาระที่อยู่อีกมุมหนึ่ง ในใจตอนนั้นคิดว่าถ้าหากไม่มีหวังจริงๆ จงจะต้องจบชีวิตตัวเองด้วยมีดเล่มนี้แน่ๆ ดีกว่านอนรอความตายอย่างช้าๆ “ คุณ Gràcia เล่าถึงประสบการณ์ของเขา
แต่แล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น เมื่อมีแสงสว่างเล็กๆ โผล่เข้ามาที่ห้องนั้น นักประดาน้ำคนหนึ่งว่าเข้ามาหาเขา และผู้ที่กลับมาช่วยชีวิตเขานั่นก็คือคุณ Mascaró เพื่อนของเขานั่นเอง
ภาระกิจช่วยชีวิตคุณ Gràcia ใช้เวลานานถึง 8 ชั่วโมง เนื่องจากสภาพแวดล้อมภายในถ้ำนั้นเต็มไปด้วยฝุ่นทำให้ยากลำบากต่อการเข้าช่วยเหลือ หลังจากถูกช่วยชีวิตออกมา ชายหนุ่มถูกส่งตัวไปรักษาอย่างเร่วด่วนเนื่องจากเขามีอุณหภูมิของร่างกายที่ต่ำมาก
แต่หลังจากรอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหาริย์ ชายหนุ่มกลับไม่เข็ด เขายังคงเป็นนักผจญภัยใต้น้ำ และกลับไปสำรวจที่ถ้ำแห่งนั้นอีก “ตอนดำน้ำและตกอยู่ในสถานะการณ์ที่ยากลำบากคุณต้องควบคุมสติให้ดี หลังจากที่รอดชีวิตออกมาได้ผมรู้สึกขอบคุณทุกๆ คนอย่างมากที่ช่วยชีวิตผม” ชายหนุ่มกล่าว
ที่มา bbc
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.