แม้ว่าหลายคนอาจจะรู้จักคำว่า ‘นักซูโม่’ มาจากการ์ตูนดังช่อง 9 หรือไม่ก็จากสื่อญี่ปุ่นกันมาตั้งแต่เด็กๆ แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าจริงๆ นอกจากเอาตัวผลักใส่กันแล้วพวกเขาต้องทำอะไรอีกบ้าง?
โดยภาพถ่ายทั้งหมดที่เราจะได้ชมนี้ เป็นภาพที่ถูกถ่ายมาจากภายในโรงฝึกซูโม่ Tomozuno ในจังหวัดโตเกียว ซึ่งมีนักกีฬาซูโม่ร่างยักษ์ 11 ชีวิตหมั่นฝึกซ้อมกันอย่างขมักเขม่นเพื่อการแข่งขันที่จะมาถึงในไม่ช้านี้
บรรดานักกีฬา หรือ ‘ริกิชิ’ เป็นกีฬาที่ต้องทุ่มเททั้งร่างกาย วิถีชีวิต และสภาพจิตใจ
สำหรับซูโม่นั้นต้องถือว่าเป็นประเพณีที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 เลยทีเดียว
เดิมทีเป็นกีฬาของการคัดเลือกนักมวยปล้ำจากกองทัพมาสู้กัน เพื่อสร้างความบันเทิงให้คนในวัง จนพัฒนามาเป็นกีฬาอย่างเช่นในปัจจุบันนี้
สำหรับที่นี่ ในทุกๆ เช้า นักซูโม่จะตื่นขึ้นมาฝึกซ้อมกันจนถึงเวลา 10.30 นาฬิกา
จากนั้นพวกเขาก็จะไปรับประทานอาหารเที่ยง ที่ถูกจัดเตรียมโดยนักกีฬารุ่นน้อง อาหารก็จะประกอบไปด้วยต้นหอม ของย่าง ปลาทอด ข้าวหุง และหม้อไฟจังโกะนาเบะ
Kyukotenho นักกีฬาซูโม่รุ่นแรกชาวมองโกเลีย ที่กลายมาเป็นหัวหน้านักกีฬาซูโม่ประจำโรงยิมแห่งนี้
หลังการฝึกซ้อมอย่างหนักตลอดทั้งช่วงเช้าและบ่าย นักกีฬาจะเข้านอนพักผ่อนเอาแรง ทว่าด้วยน้ำหนักตัวที่มากเกินไป ทำให้พวกเขาต้องใช้สายอ๊อกซิเจนช่วยในการหายใจ
นอกเหนือจากการดูแลร่างกายเพื่อการแข่งขันแล้ว พวกเขายังต้องมีกริยาท่าทางที่ดูสำรวมเมื่อออกไปพบผู้คนข้างนอก
แต่ก็น่าแปลกใจที่คนญี่ปุ่นรุ่นใหม่กลับให้ความสำคัญถึงกีฬาซูโม่น้อยลง เช่นเดียวกับชาวต่างชาติที่เข้ามาให้ความสนใจในกีฬาชนิดนี้มากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
ในอดีต การเปิดโอกาสให้คนชาติอื่น เข้ามามีส่วนร่วมในกีฬาชนิดนี้ถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากมาก
ทว่าปัจจุบันมีการปรับเปลี่ยนกฎกติกา ให้ต่างชาติสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการแข่งขันได้
Kainishiki นักซูโม่ขวัญใจชุมชนที่เพิ่งกลับมาจากการซ้อมอย่างเหน็ดเหนื่อย
แต่นอกจากการใช้พลังและการกินแล้ว เหล่านักซูโม่ก็มีมุมพ่อบ้านอยู่เหมือนกันนะ…
บ่อยครั้งที่สำนักซูโม่ต่างๆ มักจะจัดกิจกรรมออกไปเยี่ยมเยือนเด็กๆ ตามโรงเรียนเพื่อสืบสานประเพณีวัฒนธรรมให้คงอยู่ต่อไป
นักซูโม่เชื้อสายมองโกเลีย ที่กำลังแจกลายเซ็นให้กับแฟนๆ ของเขาอย่างเป็นกันเอง
นักซูโม่บางคนอาจเป็นขวัญใจสาวๆ ในขณะที่นักซูโม่อีกหลายๆ คน ได้กลายเป็นฮีโร่ขวัญใจเด็กๆ ชาวญี่ปุ่นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน
นับว่าเป็นกีฬาที่เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญานจริงๆ
ที่มา: Dailymail
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.