ถ้าให้เพื่อนๆ ลองคิดถึงหนังที่กากที่สุดในโลก เพื่อนๆ จะคิดถึงหนังเรื่องอะไร? ซึ่งสำหรับวงการหนังแล้ว The Room นั้นคือหนังที่ถูกนิยามว่าห่วยมากที่สุด ห่วยแบบไม่มีเหตุและผล แต่เชื่อไหมว่าแม้มันจะห่วยแต่หนังเรื่องนี้กลับฉายมาแล้วถึง 14 ปี!!?
หลายคนคงสงสัยว่า ทำไมหนังเรื่องนี้มันถึงฉายมาได้นานขนาดนี้ ทั้งที่ปากก็บอกว่าห่วย เหตุผลนั้นง่ายมากๆ ก็เพราะมันห่วยยังไงล่ะ…
ดูคะแนนจากมะเขือเน่าซะก่อน
อย่าเพิ่งงงกันไป เหตุผลของความห่วยที่ว่านั้นมันมีเหตุผลและข้อดีของมันอยู่ โดยเริ่มแรกเดิมทีหนังเรื่อง The Room เป็นเรื่องเกี่ยวกับรักสามเศร้าของ Johnny, Lisa และ Mark ซึ่งเป็นรักสามเศร้าที่จับต้นชนปลายไม่ค่อยถูกสักเท่าไหร่ บทจะเครียดก็เครียด ผ่านไปสิบวินาทีดีกันซะอย่างนั้น…
ยกตัวอย่างได้จากฉากยอดฮิต ที่ดูยังไงอารมณ์ในการพูดมันก็ตายด้านสุดๆ แถมปกติต้องพูดด้วยอารมณ์โกรธ ไปๆ ก็เปลี่ยนอารมณ์ไปสวัสดีเพื่อนเฉย
นอกจากนั้นตัวหนังยังถูกนิยามโดยนักวิจารณ์ที่ดูเรื่องนี้มาแล้วกว่าเกือบ 150 รอบ ว่าเป็นหนังที่ราวกับเอเลี่ยนเป็นคนทำขึ้นมา เพราะทุกอย่างในเรื่องมันเกิดขึ้นมั่วซั่วไปหมด ไม่ว่าจะเป็นบท นักแสดงและอื่นๆ อีกมากมายราวกับคนไม่เคยดูหนังมาทำ
แม้แต่พรอพในฉากอย่างกรอบรูปช้อน ก็ยังเป็นของที่เอามาวางไว้เพื่อให้ฉากดูมีอะไร แค่นั้น
และมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ เพราะคนที่ทำหนังเรื่องนี้ก็คือ Tommy Wiseau ซึ่งเขาทำหนังเรื่องนี้ขึ้นมาจากการที่เขาได้ดูหนังเรื่องหนึ่งของ Matt Damon แล้วเกิดชอบจนอยากมีหนังเป็นของตัวเองบ้าง เขาจึงเขียนบทเอง โปรดิวซ์เอง กำกับเอง แสดงนำเอง และยังออกตังจ่ายทุกอย่างด้วยตัวเองกว่า 200 ล้านบาทจนเกิดเป็นหนังเรื่องนี้ขึ้นมา
ไม่พอแค่นั้น ในการถ่ายทำหนังยังเป็นได้อย่างยากลำบากสุดๆ เพราะตัว Tommy ไม่เคยแสดงหนังมาก่อน ไม่มีความรู้มาก่อน นักแสดงที่หามาก็เป็นโนเนมไม่มีใครรู้จัก หนักหน่อยก็ไม่เคยแสดงหนังมาก่อนเลย
บทพูดที่เหมือนจะด่า แต่ทำไมฟังแล้วฮา อย่างฉากนี้เป็นต้น
ยิ่งตัว Tommy เขาไม่เคยจะจำบทพูดในหนังได้ บางฉากเขาต้องให้ทีมงานเขียนบทไว้บนกระดาษเพื่อให้เขาอ่าน และสั่งเทคใหม่กว่า 30 40 รอบในฉากเดียว แต่เชื่อไหมว่าสุดท้ายเขาก็ไม่ได้ใช้เสียงตอนถ่ายหรอก เพราะท้ายที่สุดพวกเขาก็มาอัดเสียงแยกและใส่ใหม่เข้าไปอีกที
สุดท้ายแล้วเมื่อหนังถ่ายทำเสร็จและออกฉายด้วยความพยายามของตัว Tommy เอง หนังก็ได้รับเสียงวิจารณ์ว่ามันห่วยมาก แต่ความห่วยแบบแปลกใหม่ของหนังทำให้กลายเป็นกระแสปากต่อปากว่าเป็นหนังคัลท์ที่เทพสุดๆ
หนังยังฉายรอบดึกตลอด คนต่างบอกต่อๆ กันไป
เวลาแฟนๆ ไปดูก็ยังปาช้อนพลาสติกด้วย
ไม่ก็แต่งคอสเพลย์ไปดูเลยก็มีเช่นกัน
มันฮิตขนาดที่ว่านักแสดงหลายคนอย่าง Seth Rogan หรือดาราสาวอย่าง Kristen Bell ยังบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องโปรดของเธอเลย เพราะในความห่วยของหนังมันยังมีความห่วยที่แปลกใหม่เสมอในทุกๆ ฉากจนเพลินตาสุดๆ นั่นเอง
ลองดูบทสัมภาษณ์ที่ Seth Rogan พูดถึงหนังเรื่องนี้กัน
ต่อมาในปี 2013 ตัว Greg Sestero หนึ่งในทีมแสดงนำได้ออกมาเขียนหนังสือเรื่อง The Disaster Artist ร่วมกับ Tom Bissell เกี่ยวกับเบื้องหลังของหนังเรื่องนี้ ที่สำคัญตัวหนังสือยังขายดีมากๆ และได้รับรางวัล Bookish Oscars สาขา Best Non-Fiction ในปี 2014 อีกด้วย
และล่าสุดหนังเรื่อง The Room ได้ถูกหยิบกลับมาทำใหม่ในหนังที่ชื่อว่า The Disaster Artist โดย James Franco ซึ่งให้เหตุผลในการทำหนังเพราะว่าเขาได้อ่านหนังสือดังกล่าวและเกิดถูกอกถูกใจจนขอหยิบมาทำเป็นหนังนั่นเอง
ด้านตัวหนังนั้นจะกล่าวถึงตัว Tommy Wiseau และหนังเรื่อง The Room ซึ่งภายในเรื่องก็จะเป็นการถ่ายทำหนังซ้อนหนังอีกที พร้อมกับพูดถึงความอลหม่านและเบื้องหลังต่างๆ ที่บอกเล่าว่าทำไมหนังต้นฉบับมันถึงได้ห่วยขนาดนี้ พร้อมกับแฝงความฮาปนเข้ามานั่นเอง
สามารถชมทีเซอร์แรกของ The Disaster Artist ได้ข้างล่างเลย
The Disaster Artist จะเข้าฉายในอเมริกาในวันที่ 8 ธันวาคม 2017 ส่วนจะเข้าไทยหรือเปล่านั้นอันนี้ก็ต้องดูกันต่อไป แต่ถ้าใครอยากรู้สัมผัสความคัลท์ของ The Room ก็ลองไปหามาดูกันได้ ต่อให้คะแนนห่วย แต่ #เหมียวมู่ทู่ แนะนำให้ดูเลย ยิ่งเวอร์ชั่นของ James แล้วแค่เห็นรายชื่อนักแสดงก็รู้ว่าฮาอย่างไม่ต้องสงสัย
เรียบเรียงโดย #เหมียวมู่ทู่
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.