‘Picher’ แห่งโอคลาโฮมา เมืองปนเปื้อนสารพิษที่มากที่สุดใน USA ไม่อาจอาศัยอยู่ได้เลย!!

ถ้าพูดถึงเรื่องเมืองร้างหลายคนอาจจะนึกถึงภาพของเมือง ‘Silent Hill’ ที่เคยทำออกมาเป็นทั้งเกมและหนังมาให้เราได้รู้สึกขวัญผวากันมาแล้ว

แต่ไม่น่าเชื่อว่าโลกเราจะมีเมืองร้างที่สิ่งมีชีวิตไม่สามารถอาศัยอยู่ได้จริงๆ และหนึ่งในนั้นก็คือเมือง ‘Picher’ จากรัฐโฮคลาโฮมา ประเทศสหรัฐอเมริกา

เมือง Picher เป็นเมืองขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในเขตการปกครองของ Ottawa County

แล้วเหตุใดกันที่ทำให้อดีตเมืองอุตสาหกรรมแห่งนี้ กลายเป็นเมืองร้างที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้..?

ย้อนกลับไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 (ไม่มีการระบุปีที่แน่ชัด) Picher ได้เป็นหนึ่งในเมืองที่ตั้งอยู่ใจกลาง 3 รัฐใหญ่ที่ทำอุตสาหกรรมเหมืองแร่ และแน่นอนว่าครั้งหนึ่งมันเคยเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่เต็มไปด้วยเม็ดเงินหมุนเวียนจำนวนมาก

ทว่าเดือนกันยายน ปี 2009 หนึ่งปีให้หลังจากการเกิดเหตุการณ์ทอร์นาโดครั้งรุนแรงระดับ EF4 ที่พรากชีวิตชาวเมืองไปกว่า 8 ชีวิต และทำลายอาคารบ้านเรือนไปกว่า 150 หลัง แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลหลักที่ทำให้เมืองร้าง

ปัญหาที่แท้จริงเกิดขึ้นเมื่อพบว่า น้ำสะอาดและดินของเมืองนี้ปนเปื้อนไปด้วยธาตุโลหะหนักจำนวนมาก

ย้อนกลับไปในปี 1913 ได้มีนายทุนคนหนึ่งนามว่า Harry Crawfish ได้ค้นพบและนำทีมมาขุดแร่ในบริเวณดังกล่าว ทำการเปิดตลาดขายแร่ จนเริ่มพัฒนาเป็นบริษัทเหมืองแร่ Picher Lead Company

เนื่องจากช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เหล็กและหินแร่ต่างๆ เป็นที่ต้องการอย่างมากของตลาด และการค้นพบธาตุซิงก์และเหล็กในบริเวณนี้ ก็ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจด้านการค้าอาวุธให้แก่สหรัฐอเมริกาได้เป็นอย่างมาก

อาคารสำนักงานของสมาคมเหมืองแร่

ด้วยความที่เศรษฐกิจดี ประชาชนต่างก็หลั่งใหลเข้ามาตั้งรกรากที่นี่กันมากขึ้น จนกระทั่งปี 1930 เมื่อเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจ Great Depression ได้กวาดล้างทุกอย่างให้หายไปในพริบตา

แต่เมื่อถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมืองแห่งนี้ก็กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง จนมาถึงปี 1967 กิจการทุกอย่างก็ต้องปิดตัวลง และจากการขุดเหมืองแร่เป็นเวลานานหลายสิบปี ก็ทำให้เมืองนี้ต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล

แม้ว่ากิจการเหมืองจะปิดไปแล้วแต่ก็ยังพอมีชาวบ้านหลงเหลืออยู่บ้าง จนในปี 1970 ผู้คนก็เริ่มตระหนักถึงความไม่ปลอดภัยของสภาพอากาศ และสภาพน้ำดื่มในเมืองนี้

เมื่อน้ำเปล่าที่เคยใช้อาบและดื่มกลายเป็นสีแดง ผู้คนใกล้ตัวก็เริ่มเจ็บป่วยล้มตายกันไปทีละคนสองคน ในที่สุดทางการก็ได้เข้ามาสำรวจและพบสารพิษจากเหมืองแร่ที่เจือปนอยู่ในอากาศมากเกินไป

นอกเหนือจากนั้น อุตสาหกรรมเหมืองแร่ที่ดำเนินการใต้เมืองมานานหลายปี เริ่มทำให้โครงสร้างพื้นดินของเมืองไม่มีความมั่นคง กว่า 86 เปอร์เซ็นต์ของเมืองนั้นไม่มีความปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว เพราะว่าอาคารบ้านเรือนต่างๆ สามารถพังลงมาได้ตลอดเวลา

ผ่านมาในปี 2009 แม้ว่าทางการจะเสนอให้ผู้ที่อยู่อาศัยในเมือง Picher ย้ายไปที่อื่น แต่ชาวบ้านบางคนก็ยังยืนยันที่จะอยู่ในเมืองแห่งนี้ต่อไป จนกระทั่งในปี 2015 ผู้อยู่อาศัยคนสุดท้ายในเมืองนี้ก็ได้เสียชีวิตลง ทำให้กลายเป็นเมืองร้างโดยสมบูรณ์…

เป็นอีกเมืองที่แอบหลอนใช้ได้เลยนะเนี่ย

ที่มา: spaces