เวลาป่วยหรือเป็นอะไรขึ้นมา การไปหาหมอนั้นถือเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด เพราะเมื่อรู้ว่าเป็นโรคอะไรแล้วก็ได้จะรักษาอย่างถูกวิธี
แต่ทว่าสิ่งเหล่านี้กลับตรงกันข้ามกับคุณแม่ท่านนี้ เธอถูกหมอวินิจฉัยผิดว่าเป็นโรคเครียดมานานกว่า 2 ปี ก่อนจะมารู้ทีหลังว่าเธอเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย และจะอยู่ได้อีกแค่ 2 เดือนเท่านั้น
Tina Locke เป็นผู้เสียหายจากการวินิจฉัยโรคผิด ทำให้เธอต้องทรมานจากการกระเพาะอาหารและหน้าอกเป็นเวลากว่า 2 ปี โดยถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคเครียด และไม่ได้รับการักษาที่ถูกต้อง
ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา Tina ได้กินแค่ยาต้านอาการซึมเศร้าเพียงอย่างเดียว นอกนั้นเป็นการรักษาเกี่ยวกับความวิตกกังวลและอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง
แต่การรักษาเหล่านี้ไม่ได้ใช่ช่วยให้เธอดีขึ้นเลย จนกระทั่งการตรวจสุขภาพครั้งล่าสุดกลับพบว่า เธอเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย โดยมะเร็งได้ลามไปยังต่อมน้ำเหลืองและช่องท้อง โอกาสรอดทางเดียวคือต้องไปรักษาภูมิคุ้มกันที่ประเทศเยอรมนี ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 13,000,000 บาท
ทางด้าน Jason ผู้เป็นสามีบอกว่า “เธอไม่รับการตรวจอย่างจริงจัง เพราะดูจากภายนอกแล้วเธอดูสุขภาพดี ในขณะที่ Tina ก็ได้พยายามบอกให้หมอทำการตรวจซ้ำอย่างละเอียดหลายครั้งมาก”
ทั้งหมดนี้เกิดจากความผิดพลาดของทางองค์กร NHS (ระบบดูแลสุขภาพแห่งชาติ) ดังนั้นตอนนี้ทางครอบครัวจึงได้เรียกร้องให้ NHS ออกมารับผิดชอบ และจะประท้วงจนกว่า Tina จะได้ไปรักษาที่เยอรมนี
แต่การรักษาดังกล่าวนี้ไม่ได้หมายความว่าจะรักษาให้หายขาดได้ เพียงแต่จะยืดอายุเธอให้นานกว่า 2 เดือนเท่านั้นเอง
ล่าสุดทาง NHS ออกมาปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือ เนื่องจากไม่ได้รับการอนุมัติจากสถาบันการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัดของสหราชอาณาจักร
แต่ทางครอบครัวได้ออกมาเรียกร้องให้ NHS ข้ามขั้นตอนอารอนุมัติไป และให้ทำการรักษาเธอที่นี่ก็ได้ แต่จนถึงขนะนี้ก็ไม่ได้รับคำตอบจาก NHS ใดๆ เลย
ด้วยเหตุนี้พวกทางครอบครัวจึงต้องรับบริจาคผ่านเว็บไซต์ JustGiving โดยยอดปัจจุบันอยู่ที่ 570,000 บาทแล้ว ซึ่งยังคงมีหน่วยงานต่างๆ ยื่นมือเข้าช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ก็ทำได้เพียงแค่หวังว่าเธอจะได้รับการรักษาที่ถูกต้องเสียที ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
ที่มา dailymail
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.