หญิงชราวัย 89 ปี ผู้รอดสงคราม ถือป้ายต่อต้าน ‘ลัทธินาซี’ จากความวุ่นวายใน Charlotteville

เรียกได้ว่าตอนนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน Charlottesville เมื่อวันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม 2017 ดูจะเป็นเหตุการณ์ความรุนแรงที่ถูกจับตามองไปทั่วโลก เพราะนี่เป็นการประท้วงครั้งใหญ่ในสหรัฐอเมริกาเลยก็ว่าได้…

โดยในเหตุการณ์นี้มีทั้งกลุ่มของผู้มีความชิงชังด้านผิวสีชาติพันธุ์ กลุ่มชาตินิยมฝ่ายขวา ร่วมกับกลุ่มลัทธินิยมนาซี รวมตัวกันเป็นเป็นกลุ่มใหญ่ “Unite the Right” เข้าปะทะกับฝ่ายต่อต้าน ในประเด็นของการขับไล่ผู้คนที่มีความคิดต่างและไม่ใช่ชนชาติอเมริกัน

 

ในเหตุการณ์ชุมนุม มีการขับรถชนผู้ชุมนุมจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บอีก 19 ราย

 

แม้ว่าโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาเรียกร้องให้ ‘ทุกฝ่าย’ หยุดสร้างความเกลียดชังใส่กัน ทว่าคำพูดของเขาก็ยังเป็นประเด็นอยู่

 

ในเมื่อไม่มีการกล่าวโทษฝ่าย White Supremacist (กลุ่มลัทธินิยมคนขาว) ซึ่งเป็นฝ่ายเริ่มเรื่องอย่างจริงจัง และการก่อจลาจลก็ยังคงดำเนินต่อไป

ทว่าท่ามกลางเหตุการณ์ชุมนุมที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ทีมข่าวของ CNN (Seth Lemon) ก็สามารถจับภาพของหญิงชราวัย 89 ปี ที่ออกมาต่อต้านการชุมนุมแห่งความเกลียดชังในครั้งนี้ด้วยป้ายที่เขียนระบุไว้ว่า

 

“ครั้งหนึ่งฉันเคยหนีออกจากค่ายกักกันนาซีมาแล้ว และพวกคุณก็ไม่มีวันที่ทำแบบนั้นได้อีก”

 

เมื่อทีมข่าว CNN เข้าไปขอสัมภาษณ์ หญิงชราคนดังกล่าวก็ได้เล่าถึงเหตุการณ์ในอดีตของเธอให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า

ครั้งหนึ่งครอบครัวของเธอถูกทหารนาซีจับตัวไปอยู่ในค่ายกักกัน ทว่ามีเพียงเธอและพ่อของเธอเท่านั้นที่สามารถหลบหนีออกมาได้ พวกเขาต้องอพยพหนีไปอยู่ในฝรั่งเศสนานหลายปี ก่อนจะมีโอกาสย้ายมาตั้งรกรากในสหรัฐฯ

“ฉันยังจำได้ดีภาพที่เราต้องวิ่งหนีเอาชีวิตรอดออกมา เราไม่รู้เลยว่าจุดจบข้างหน้าจะเป็นยังไง ฉันจำภาพที่พ่อหกล้มแต่เราต้องรีบวิ่งไปต่อได้ มันเป็นความโหดร้ายที่แย่มาก และมันแย่ยิ่งกว่านั้นเมื่อผู้คนต่างให้การสนับสนุนคนที่มีแนวคิดแบบนี้”

 

คุณยาย Marianne Rubin

 

ประวัติศาสตร์หลายฉบับคอยย้ำเตือนให้เราระลึกอยู่เสมอว่า ‘ความเกลียดชัง’ อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการสูญเสียที่ไม่มีใครอยากให้เกิดซ้ำรอย

และหลังจากที่เรื่องราวของคุณยายถูกแชร์ต่อบนโลกโซเชียล เราก็ได้แต่หวังว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์ หรือความรุนแรงอะไรที่บานปลายไปมากกว่านี้อีก

 

ยังไงก็ขอให้คนไทยทุกคนที่อยู่ที่นั่นปลอดภัยแล้วกันนะ…

ที่มา: vt.co

Comments

Leave a Reply