เมื่อพูดถึงน้ำผึ้ง ใครๆก็คงจะนึกถึงรสชาติที่แสนหอมหวาน โดดเด่น ไม่เหมือนใครใช่ไหมล่ะ มีคนจำนวนมากที่ชื่นชอบและหลงใหลในรสของน้ำผึ้งจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว
แล้วเคยสงสัยกันไหมล่ะว่า “ทำไมน้ำผึ้งแท้ถึงไม่มีวันหมดอายุ?” ไม่ว่าจะแช่เย็นหรือเก็บไว้ในห้องปกติ ผ่านไปเป็นปีก็ยังเอากลับมากินได้หอมหวานอร่อย ไม่ได้มีความรู้สึกว่ามันบูดเลย #เหมียวบู้บี้ ก็เลยไปค้นหาและรวบรวมข้อมูลมาไขข้อสงสัยให้กับทุกคนกันค่ะ
ก่อนอื่นเรามาเรียนรู้กระบวนการทำน้ำผึ้งกันก่อน…
กระบวนการในการผลิตน้ำผึ้งแท้ตามธรรมชาติ เริ่มจากผึ้งงานออกไปเก็บน้ำหวานจากดอกไม้ดูดลงเก็บไว้ในกระเพาะน้ำหวาน เอนไซม์ที่อยู่ในปากผึ้งก็จะถูกขับออกมาคลุกเคล้ากับน้ำหวาน เพื่อช่วยย่อยน้ำตาลกลูโคสและฟรุกโทสให้กลายเป็นน้ำตาลเด็กโทรสและน้ำตาลอื่นๆ
อ้อ!! แล้วรู้รึเปล่าว่าการกระพือปีกบินกลับรังของมันจะช่วยเร่งการทำงานของเอนไซม์ ตลอดจนช่วยลดความชื้นในน้ำหวานได้อีกด้วย
พอกลับถึงรังมันก็จะคายน้ำหวานให้กับผึ้งงานที่อยู่ประจำรังแบบปากต่อปาก ทำให้เกิดการสร้างกระบวนการเคมีอีกทอดหนึ่ง เสร็จแล้วก็จะนำน้ำหวานที่ได้นี้ไปบรรจุลงในหลอดรวงผึ้ง และพวกผึ้งก็จะช่วยกันกระพือปีกเพื่อช่วยในการระเหยของน้ำหวานจนทำให้ได้น้ำผึ้งแท้ ที่มีน้ำเหลืออยู่เพียง 18 % เท่านั้น
แล้วทำไมน้ำผึ้งจึงไม่เน่าเสีย!?
ด้วยเอนไซม์จากน้ำลายผึ้งที่เติมลงในน้ำหวานคือ กลูโคสออกซิเดส เอนไซม์ตัวนี้จะช่วยชะลอการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ยิ่งเก็บไว้นานๆ เอนไซม์ตัวนี้ก็จะทำให้ไม่เกิดการเน่าเสีย โดยการเปลี่ยนกลูโคสให้กลายเป็นกรดกลูโคนิกกับไฮโดรเจนเปออ็อกไซด์ที่มีฤทธิ์ฆ่าแบคทีเรีย
สาเหตุที่สำคัญที่สุดที่ทำให้น้ำผึ้งไม่มีวันหมดอายุนั่นก็เพราะว่า ในน้ำผึ้งมีปริมาณน้ำตาลและความเป็นกรดสูงทำให้แบคทีเรียและยีสต์ไม่สามารถเจริญเติบโตได้ และถ้าเก็บน้ำผึ้งไว้ในภาชนะที่ปิดสนิทก็จะทำให้น้ำผึ้งแท้บริสุทธิ์สามารถเก็บไว้ได้นานแสนนานทีเดียว
ประโยชน์ของน้ำผึ้งมีอะไรบ้าง?
มาปิดท้ายกันด้วยประโยชน์กันบ้าง ประโยชน์ของน้ำผึ้งมีมากมายหลายอย่าง เช่น เพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ใช้ในด้านของความงาม ช่วยชะลอและป้องกันริ้วรอยแห่งวัย ช่วยบำรุงผิวพรรณ ลดสิวเสี้ยน ทำให้หน้าชุ่มชื่น และช่วยในด้านของการรักษาโรคต่างๆ อีกทั้งช่วยสมานแผลให้แผลหายเร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย
เมื่อรู้คุณประโยชน์ของน้ำผึ้งแบบนี้แล้ว เราควรหันกลับมาบริโภคน้ำผึ้งเพื่อสุขภาพที่ดีของเรากันเถอะ แต่อย่าทานเยอะเกินไปจะทำให้เกิดเบาหวานได้เหมือนกันนะคะ
ที่มา จรัส เชียงใหม่, pantip
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.