เด็กเล็กๆ ก็มีบ้างที่จะไม่เข้าใจหรือเชื่อฟังในสิ่งที่ผู้ปกครองพูด จนบางครั้งก็ลงเอยด้วยการทำโทษเพื่อให้มีความรู้สึกหลาบจำและปฏิบัติตามในสิ่งที่ผู้ใหญ่ต้องการ แต่ทว่าการทำโทษนั้นอาจรุนแรงถึงขั้นที่เสียชีวิตได้เลย…
อุทาหรณ์เรื่องนี้เกิดขึ้นในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อเจ้าหน้าที่ได้จับกุม Cynthia Marie Randolph คุณแม่ลูกสองวัย 25 ปี
ที่เป็นต้นเหตุทำให้ลูกๆ ของเธอที่มีอายุเพียงแค่ 2 ขวบและ 1 ขวบกว่าๆ ต้องเสียชีวิต จากการที่ขังพวกเขาไว้ในรถเพื่อเป็นการทำโทษ…
Cynthia Marie Randolph คุณแม่ลูกสองที่ขังลูกเอาไว้ในรถ จนเป็นเหตุทำให้เสียชีวิต
โดยที่ทั้งคู่นั้นถูกพบศพในวันที่ 26 พฤษภาคม 2017 และเธอก็ถูกตัดสินในข้อหาทำให้เด็กได้รับการบาดเจ็บร้ายแรงระดับที่หนึ่ง
ผลจากการชันสูตรจากลูกทั้งสองคนสามารถระบุได้ว่าเป็นการฆาตกรรม จากอาการไข้ขึ้นสูงจัดจนเสียชีวิตภายในรถ ที่เธอได้ขังพวกเขาเอาไว้ด้วยอุณหภูมิสูงถึง 35 องศาเซลเซียส
ทางด้านตำรวจได้ให้ข้อมูลว่า เธอต้องการที่จะสั่งสอนลูกของเธอที่ไม่ยอมลงจากรถเมื่อถูกสั่ง ตามข้อกล่าวหาคือเธอขังเด็กเอาไว้ในนั้นและเข้าบ้านไปสูบกัญชา ก่อนจะงีบหลับไป 2 ถึง 3 ชั่วโมง เพราะคิดว่าลูกๆ จะสามารถออกมาจากรถได้เอง
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเสริมอีกว่า เมื่อเธอได้ออกมาเห็นลูกน้อยทรมานอยู่ในรถ ก็ทำการทุบกระจกรถให้ดูเหมือนกับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอุบัติเหตุ
ลูกสาววัย 2 ขวบและลูกชายวัย 16 เดือน
จากคำให้การของเธอกับสิ่งที่ลงทำไปนั้น ก็เพื่อต้องการสั่งสอนลูกที่ไม่ยอมลงจากรถและคิดว่าพวกเขาจะออกมากันเองได้
แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นพนักงานสืบสวนบอกว่า ได้รับคำให้การที่เปลี่ยนแปลงหลายครั้งมากๆ เธอยังเคยบอกกับตำรวจว่าเธอกำลังทำงานบ้านอยู่ด้านใน ขณะที่เด็กๆ กำลังอยู่ข้างนอกบ้าน…
ในตอนที่เธอให้การกับตำรวจอย่างนั้น เรื่องมีอยู่ว่าเธอกำลังหาของอยู่ภายในบ้าน ก่อนที่จะพบว่าลูกๆ ถูกขังอยู่ในรถที่ล็อคไว้ทั้ง 4 ประตู โดยสันนิษฐานว่าพวกเขาเข้าไปและล็อคจากด้านในกันเอง
หลังจากการให้ปากคำกับตำรวจและพนักงานสืบสวนแล้ว พวกเขาเหล่านั้นก็คิดว่าเธอตั้งใจทิ้งเด็กเอาไว้ในรถเพื่อเป็นบทเรียนให้กับลูก ศาลจึงตัดสินให้เธอถูกจำคุก และยังไม่มีการกล่าวถึงค่าเสียหายใดๆ กับสิ่งที่เธอได้ทำลงไป
การไตร่ตรองและคิดให้ดีเสียก่อนเป็นเรื่องจำเป็นต่อทุกการกระทำ เพื่อไม่ให้ต้องเกิดความสูญเสียและผลกระทบแย่ๆ ที่ตามมาในภายหลัง
ที่มา: dailymail
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.