หากใครที่กำลังมองหาแรงบันดาลใจที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองอยู่ละก็ เราจะขอพาทุกคนไปรู้จักกับเรื่องราวของหญิงสาว ที่แม้แต่ตัวเธอเองก็ยังไม่เชื่อว่าจะสามารถลดน้ำหนักได้มากถึงขนาดนี้
Erin Hulick สาววัย 30 ปี โดยก่อนหน้านี้เธอมีพฤติกรรมการกินที่มากเกินความจำเป็น เฉพาะอาหารมื้อเย็นในแต่ละวัน เธอต้องรับประทานมากถึง 5,000 แคลอรี่ (ประมาณ 3 ชุดอาหารของคนปกติ)
ภาพก่อน & หลัง ที่ตัวเธอเองก็ไม่เชื่อว่าจะทำได้
เป็นประจำทุกวันที่เธอมักจะกินจุกกินจิกอยู่ตลอดเวลา จนทำให้เธอมีน้ำหนักตัวมากถึง 159 กิโลกรัม และเริ่มสูญเสียความมั่นใจที่จะเข้าสังคม ซึ่งนั่นทำให้เธอตอกย้ำตัวเองด้วยการกินมากขึ้นไปอีก
จนกระทั่งเมื่อช่วงต้นปีที่แล้ว เธอมีโอกาสได้เข้าพบคุณหมอเกี่ยวกับอาการผิดปกติบางอย่างของเธอ ซึ่งเธอก็ได้คำแนะนำจากคุณหมอมาว่า… หากเธอไม่เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต สิ่งเหล่านั้นอาจส่งผลให้เธอเสียชีวิตก่อนวัยอันควรได้เลย
ภาพของเธอในอดีต
หลังจากที่รู้ว่าสุขภาพตัวเองเริ่มย่ำแย่จากการบริโภคมากเกินไป เธอก็เริ่มหันมาสนใจสุขภาพตัวเองมากขึ้น เธอหันมาทานอาหารคลีน (เน้นผักมากกว่าเนื้อ) เปลี่ยนจากการโดยสารด้วยรถเข็น เป็นการเดินให้มากขึ้น
พอน้ำหนักตัวเธอเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว เธอก็หันมาออกกำลังกายให้หนักยิ่งขึ้น โดยเธอเล่าว่าจะเป็นไปไม่ได้เลยถ้าไม่ได้รับกำลังใจที่ดีจากคนรอบข้าง
วัดไซส์กางเกงของเธอจากตอนอ้วน vs ตอนที่ผอมแล้ว
มีครั้งหนึ่งหลังจากที่เธอลดน้ำหนักได้คงที่แล้ว เพื่อนเก่าของเธอก็เข้ามาทักทายด้วยการแนะนำตัวให้รู้จัก ทั้งๆ ที่เธอจำเขาได้แม่นมาตั้งแต่ช่วงเรียนมัธยมปลาย
จนกระทั่งได้บอกว่าเธอชื่อ Erin เพื่อนคนนั้นก็รู้สึกอายและช็อคกับการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก เพราะรูปร่างของเธอแทบจะไม่เหลือเค้าเดิมเลย…
“ต้องขอบคุณครอบครัวและเพื่อนๆ ทุกคนมากๆ ค่ะ ถ้าไม่มีพวกเขาฉันอาจจะหมดกำลังใจและล้มเลิกไปแล้วก็ว่าได้ ในแต่ละวันพวกเขามักจะเป็นคนกระตุ้นให้ฉันไปออกกำลังกายอยู่เสมอ” Erin เล่า
สุดท้ายเธอก็หวังว่าเรื่องราวของเธอ จะกลายเป็นแรงบันดาลใจดีๆ ให้ผู้คนหันมาสนใจเรื่องสุขภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งเธอเชื่อมั่นว่าหากเราตั้งใจจะทำอะไรแล้ว ความสำเร็จอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน
“ย้อนกลับไปตอนนั้นฉันไม่รู้เลยว่าตัวเองคิดอะไรอยู่ ถึงได้ปล่อยให้ตัวเองกลายเป็นแบบนั้น พอผ่านจุดนั้นมาได้เรารู้สึกดีต่อตัวเองมากยิ่งขึ้น เราออกไปทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับเพื่อนๆ ได้”
และตอนนี้ก็เธออยู่ในขั้นตอนการระดมทุน เพื่อนำเงินไปผ่าตัดรักษาผิวหนังส่วนเกินที่เหี่ยวย่นออก
เชื่อเถอะว่าถ้าเราตั้งใจดูแลสุขภาพเราแล้ว ยังไงสิ่งดีๆ ต้องตามมาแน่นอน
ที่มา: TheSun
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.