ถ้าหากให้เดาชื่อของประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องของคุณภาพการศึกษาแล้ว เชื่อว่าชื่อของประเทศฟินแลนด์คงจะผุดขึ้นมาในหัวของหลายๆ คนอย่างแน่นอน เพราะอาจจะเคยได้ยินหรือได้เห็นกันมาบ้างว่าที่นี่นั้นดียังไง…
และทางเว็บไซต์ brightside ได้รวบรวม 14 เหตุผลดีๆ ที่จะช่วยยืนยันว่าระบบการศึกษาของฟินแลนด์นั้นยอดเยี่ยมจริงๆ ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นไปชมกันเลย…
1. ทุกๆ อย่างที่นี่ฟรี!!
อย่างที่หลายๆ คนเคยทราบกัน การศึกษาของประเทศนี้ฟรี!! และไม่เฉพาะค่าเทอมเท่านั้นแต่ยังรวมถึงค่าบริการต่างๆ อย่างเช่นการไปทัศนศึกษาและข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ในการเรียนอีกด้วย
นอกจากนี้นักเรียนที่อยู่ห่างจากโรงเรียนเกิน 2 กิโลเมตรก็ยังมีรถรับส่งฟรีอีกด้วย โดยในแต่ละปีพวกเขาจะจัดสรรงบประมาณ 12.2% จากงบประมาณทั้งหมดของประเทศเพื่อการศึกษา
2. เด็กๆ สามารถมีอิสระได้แบบที่เขาต้องการ
เด็กๆ ทุกคนสามารถเลือกกิจกรรมและการเรียนได้ตามที่พวกเขาสนใจและตามความสามารถของตนเอง นอกจากนี้พวกเขายังมีคุณครูที่จะคอยให้ความรู้และความเข้าใจอย่างใกล้ชิด
นั่นหมายความว่าบางวิชาที่ไม่น่าสนใจสำหรับพวกเขา เด็กๆ สามารถเลือกทำกิจกรรมอย่างอื่นได้ อย่างเช่นการอ่านหนังสืออื่นๆ ที่ไม่ใช่ตำรารเรียน หรือการเรียนเย็บผ้าได้
3. ที่นี่จะไม่มีการตัดเกรดจนกว่าเด็กๆ จะขึ้นป. 3
ระบบการคิดคะแนนผลการเรียนของที่นี่จะมีด้วยกัน 10 คะแนน โดยพวกเขาจะไม่มีการให้เกรดเด็กๆ จนกว่าพวกเขาจะขึ้นชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
และสำหรับการให้คะแนนเกรด ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 1 จะมีเพียงคำว่า “พยายามอีกนิด” ไปจนถึง “ยอดเยี่ยม” แทนการใช้เกรดแบบ 1-4 หรือ A-F
4. พวกเด็กๆ สามารถใช่ชุดอะไรมาเรียนก็ได้!!
โรงเรียนในประเทศฟินแลนด์นั้นไม่มีชุดเครื่องแบบของนักเรียน พวกเขาสามารถใส่ชุดอะไรมาเรียนก็ได้ตามที่ต้องการอย่างไม่มีข้อกำหนด (รวมถึงชุดนอนด้วย)
5. ระหว่างเรียนพวกเด็กๆ สามารถนั่งตรงส่วนไหนของห้องเรียนก็ได้
พวกเด็กนักเรียน ไม่ต้องนั่งอยู่กับโต๊ะประจำของเขา ระหว่างเรียนหนูๆ สามารถที่จะนั่งตรงส่วนไหนของห้องเรียนก็ได้ตามสบาย และในบางครั้งถ้าสภาพอากาศดี ห้องเรียนของพวกเขาก็อาจจะเป็นสนามหญ้าด้านนอก
6. การบ้านที่ได้รับมอบหมายมีจำนวนน้อย
ที่นี่พวกเขาคิดว่าเด็กๆ ควรใช้เวลาหลังเลิกเรียนอยู่กับครอบครัวมากกว่าการนั่งทำการบ้าน ส่วนถ้าหากจำเป็นต้องมีการบ้านก็จะเป็นเพียงแบบฝึกหัดง่ายๆ และน่าสนใจ
อย่างเช่นการสัมภาษณ์คุณยายเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เมื่อ 50 ปีก่อน และเขียนเปรียบเทียบความแตกต่างกับสมัยปัจจุบัน
7. ไม่มีการสอบปลายภาคด้วยนะ
ที่นี่ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้มากกว่าการสอบ โดยคุณครูจะสามารถทดสอบพวกเด็กๆ ได้ตามความเหมาะสม และจะมีการสอบวัดมาตรฐานของเด็กๆ ตามข้อบังคับเพียงครั้งเดียว เมื่อพวกเขาจบการศึกษาระดับมัธยมต้นเท่านั้น
8. บางโรงเรียน ไม่มีกำหนดวิชาเรียน
แนวทางในการเรียนการสอนแบบใหม่ของที่นี่ จะเน้นที่การศึกษาจากปรากฎการณ์มากกว่าการเรียนตามหัวข้อ พวกเขาจะมีเวลาประมาณ 6 สัปดาห์สำหรับให้เด็กๆ ศึกษาหัวข้อต่างๆ ที่พวกเขาสนใจในมุมมองที่แตกต่างกัน
อย่างเช่นมีหัวข้อเกี่ยวกับเรื่องเกี่ยวกับผู้อพยพ ก็จะมีการแบ่งย่อยๆ ออกเป็นมุมมองทางด้านภูมิศาสตร์ มุมมองทางด้านประวัติศาสตร์ และประเพณีวัฒนธรรม ให้เด็กๆ ศึกษาและหาคำตอบด้วยตัวเอง
9. มีเวลาพักเบรกระหว่างเรียน
ไม่มีอะไรจะน่าสนใจสำหรับพวกเด็กๆ ไปมากกว่าเวลาพักอีกแล้ว โดยนักเรียนจะมีเวลาเรียนในชั้นเรียนแค่เพียง 45 นาทีต่อวิชา และพักเบรกอีก 15 นาทีก่อนที่จะเริ่มเรียนวิชาถัดไป
10. คุณครูที่นี่ยังมีคุณภาพสุดๆ อีกด้วย
การแข่งขันสำหรับตำแหน่งคุณครูของที่ประเทศนี้ค่อนข้างที่จะสูง โดยอัตราการแข่งขันนั้นอยู่ที่ประมาณ 20 คนต่อ 1 ตำแหน่งเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีการจำกัดการสมัครคัดเลือกได้เพียงแค่ 10 ครั้งเท่านั้น
ส่วนเงินเดือนของคุณครูนั้นก็อยู่ที่ประมาณ 130,000 บาทเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นอาชีพครูที่ประเทศฟินแลนด์นั้นจึงถือว่าเป็นอาชีพที่มีเกียรติสุดๆ
11. เด็กๆ จะได้เรียนแค่สิ่งที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวันเท่านั้น
ไม่ว่าจะเป็นวิชาว่ายน้ำ วิชาทำอาหาร หรือวิชาเย็บปักถักร้อยและวิชาอื่นๆ ที่พวกเด็กๆ จำเป็นจะต้องใช้ในชีวิตประจำวันของเขาจะมีอยู่ในโรงเรียน รวมถึงวิชาด้านไอทีที่มีความสำคัญไม่แพ้กันอีกด้วย
12. มาตฐานของแต่ละโรงเรียนเท่ากันหมด
ที่นี่คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องปวดหัวกับการเลือกโรงเรียนดีๆ ให้กับลูก คุณสามารถให้พวกเด็กๆ เข้าโรงเรียนใกล้บ้านได้เลย เพราะมาตรฐานนั้นก็ไม่ต่างจากโรงเรียนในเมืองใหญ่เลยแม้แต่น้อย ทั้งคุณภาพของการเรียนการสอน ตลอดจนถึงคุณภาพของอาหาร
13. เมื่อถึงมื้อกลางวัน พวกนักเรียนสามารถเลือกได้เองว่าพวกเขาอยากจะทานอะไร
อาหารกลางวันของเด็กๆ ในฟินแลนด์นั้นมีให้เลือกมากมาย โดยแต่ละเมนูจะมีจะมีการประกาศทางเว็บไซต์ของโรงเรียนประมาณ 1 เดือนล่วงหน้า เพื่อให้พวกเด็กๆ สามารถเลือกได้ว่าแต่ละวันพวกเขาจะทานอะไรบ้าง และที่สำคัญที่สุดก็คืออาหารเหล่านี้ฟรี!!
14. โรงเรียนแต่ละแห่ง มักจะมีการจัดค่ายพักแรมให้เด็กๆ
บางครั้งเหล่านักเรียนจะพกถุงนอนและชุดนอนสำหรับมาค้างคืนที่โรงเรียนกับคุณครู เพื่อทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการฟังนิทาน การเล่นเกม และการนอนพักแรมในโรงยิม จากนั้นในตอนเช้าพวกเขาก็จะตื่นมาพร้อมกับอาหารเช้าที่แสนอร่อย
ที่มา brightside
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.