นักบินไม่ยอมนำเครื่องออก หลังรู้ว่าผู้ลี้ภัยอาจเกิดอันตราย ถ้าเกิดถูกส่งกลับประเทศตัวเอง

การช่วยเหลือเพื่อมนุษย์ด้วยกันนั้น นับเป็นสิ่งที่ประเสริฐ เพราะในบางครั้ง การช่วยเหลือเพียงน้อยนิด อาจเปลี่ยนชีวิตใครคนหนึ่งไปตลอดกาลก็ได้

Samim Bigzad วัย 22 ปี ได้จองตั๋วเครื่องบินเพื่อกลับไปยังประเทศตัวเองคืออัฟกานิสถาน หลังเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองปฏิเสธการยื่นคำร้องขอวีซ่าเข้าสหราชอาณาจักรของเขาเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

จริงๆ แล้วมีคนนับพันคนที่ลงชื่อคัดค้านเรื่องดังกล่าวและพยายามปกป้อง Bigzad ไม่ให้ถูกส่งไปยังประเทศตัวเอง เพราะที่นั่นเขาถูกคุกคามโดยกลุ่มตาลีบัน กลุ่มก่อการร้ายที่หลายๆ คนรู้จักกันเป็นอย่างดี

 

 

แต่เมื่อการคัดค้านไม่สำเร็จ Bigzad จึงจำเป็นต้องกลับไป เขาเดินทางไปยังสนามบินฮีทโธรว์โดยมีการ์ด 3 คน บังคับให้ขึ้นเที่ยวบิน Turkish Airlines ที่กำลังจะออก

Arash ญาติของเขาบอกว่า “ตอนนั้น Bigzad ร้องไห้ฟูมฟาย และตะโกนซ้ำๆ ว่า ‘ผมจะถูกฆ่าในอัฟกานิสถาน’!!

เมื่อนักบินของเที่ยวบิน Turkish Airlines ได้ยินเสียงตะโกนของผู้โดยสารคนนั้น เขาก็ตัดสินใจที่ไม่นำเครื่องออก ตราบใดที่ Bigzad ยังอยู่บนเครื่อง

 

 

Samim เล่าว่า “นักบินออกมายืนพูดกับการ์ดว่า ‘ถ้าคุณไม่พาผู้โดยสารคนนี้ลงจากเครื่อง ผมก็จะไม่นำเครื่องออกเหมือนกัน เพราะชีวิตของเขากำลังตกอยู่ในความเสี่ยง’

หลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ก็ไม่มีสื่อไหนรายงานความคืบหน้าอีก แต่เชื่อว่า  Bigzad ถูกส่งตัวไปอยู่ในศูนย์ผู้ลี้ภัย Brook House ที่ใกล้กับสนามบินแกตวิก

สำหรับ Bigzad นั้น ได้เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเมื่อปี 2015 เนื่องจากถูกกลุมตาลีบันข่มขู่และคุกคามการใช้ชีวิตของเขาหลายต่อหลายครั้ง โดยเขามาอยู่กับญาติพี่น้องและคอยดูแลพ่อที่ป่วย ซึ่งพ่อของเขานั้นถือสัญชาติอังกฤษอยู่แล้ว

 

 

แต่แล้วเมื่อวีซ่าของ Bigzad หมด เขาไม่สามารถต่อวีซ่าได้อีกตามที่กล่าวไปข้างต้น และเตรียมจะถูกส่งตัวกลับ แม้จะคัดค้านหรือให้เหตุผลอย่างไงเจ้าที่ก็ไม่ยอมฟัง

ทางด้านโฆษกตรวจคนเข้าเมืองบอกว่า เรามีนโยบายเกี่ยวกับคนเข้ามาอย่างชัดเจนและเป็นที่ยอมรับ เราต้องทำตามปฏิบัติตามกฏหมายที่กำหนด

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าน่าจะได้ข้อสรูปที่ทำให้ทุกฝ่ายพอใจ

 

 

ที่มา metro

Comments

Leave a Reply