ความรักอันแสนเศร้า ของคู่รักที่คบกันตั้งแต่มัธยม แต่สุดท้ายก็มีฝ่ายหนึ่งต้องจากไป…

การตามหารักแท้ว่ายากแล้ว แต่การรักษารักแท้ให้อยู่กับเราไปตลอดชีวิตนั้นเป็นสิ่งที่ยากกว่า เพราะวันหนึ่งไม่เขาหรือเราก็ต้องจากกันด้วยเหตุผลใดเหตุผลหนึ่ง…

นี่เป็นเรื่องราวของ Jake Coates และ Emmy Collett คู่รักที่คบกันมาตั้งแต่มัธยม จนกระทั่งได้แต่งงานกัน แต่ไม่นานหลังจากนั้นฝ่ายหญิงก็ได้จากไปอย่างน่าเศร้า เหลือเพียงความทรงจำอันงดงามที่อยู่ในใจของฝ่ายชายตลอดไป

 

 

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ได้มีการแชร์เรื่องนี้ในเฟซบุ๊กที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว Jake เขียนไว้ว่า “ทุกวันที่ได้อยู่ด้วยกัน ผมแทบไม่เชื่อเลยว่าทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริง ผมสงสัยเสมอว่า ทำไมคนอย่าง Emmy ถึงเลือกผม”

“แต่ผมก็รู้สึกขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่เธอทำ เราอาจจะใช้ชีวิตคู่ด้วยกันในเวลาอันสั้น แต่ตอนนี้ผมคิดถึงเจ้าสาวแสนสวยมากกว่าครั้งไหนๆ”

Jake กับ Emmy พบกันตอนที่คนหนึ่งอายุ 11 ปี จนกระทั่งอายุ 13 ปี Jake ก็ได้ตกหลุมรักฝ่ายหญิง และเขาก็ได้บอกเธอว่า เธอคือ กุ้งล็อบสเตอร์ ผู้ที่จะคอยโอบกอดเขาไว้นั่นเอง

 

 

ต่อมาทั้งคู่ก็ได้ตกลงคบกันเป็นแฟน จนกระทั่ง 3 ปี ผ่านไป ตอนนั้นพวกเขาอยู่ในวัย 19 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่ต้องเรียนระดับมหาวิทยาลัย และเนื่องจากเรียนคนละที่จึงจำเป็นต้องแยกทางกัน

อย่างไรก็ตามตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี พวกเขาก็ยังคงติดต่อกันตลอด แม้กระทั่งวัยทำงาน Jake เป็นหมออยู่ที่ออสเตรเลีย ส่วน Emmy เป็นครูในโรงเรียนประถมที่ลอนดอน

แม้จะอยู่ห่างกัน แต่ความรู้สึกที่มีต่อกันนั้นไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย มีเรื่องอะไร พวกเขามักจะเล่าให้กันฟังเสมอ ผ่าน FaceTime

 

 

กระทั่ง 6 เดือนต่อมา Emmy ก็ได้ประกาศว่าพวกเขากำลังจะแต่งงานและกลับไปใช้ชีวิตด้วยกันที่สหราชอาณาจักร เธอบอกว่า “ในที่สุด ชีวิตในฝันของเราก็เป็นจริงแล้ว”

แต่แล้วสัปดาห์หลังจากที่พวกเขาจองทริปไปฮันนีมูนประเทศฟิลิปปินส์ในปี 2016 เรื่องราวที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นกับคู่รักคู่นี้

Emmy ปวดลำไส้เป็นเวลาหลายเดือน และพบว่าเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์ในเวลาต่อมา และวันก่อนการเดินทาง แพทย์ได้แจ้งว่า มะเร็งได้ลามไปยังกระดูสันหลัง ปอด ตับ และกระดูก จนไม่สามารถรักษาได้แล้ว

 

 

ที่โรงพยาบาล Royal Marsden Hospital หญิงสาวได้เรียนรู้ว่า หากตรวจพบมะเร็งเร็วกว่านี้ อาจจะรักษาให้หายได้ แต่เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว นั่นหมายความว่าเธอจะไม่มีโอกาสได้เป็นแม่ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอย่างที่เธอปรารถนามากที่สุดในชีวิตนี้

หมอได้อธิบายให้ Emmy ฟังว่า เธอมีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้มาเป็นเวลานาน เนื่องจากฮอร์โมนแคลซิโทนินหลั่งออกมาจากเซลล์มะเร็ง

หญิงสาวบอกว่า เธอต้องล้างลำไส้ทุกๆ 15 นาที ทั้งกลางวันและกลางคืน นั่นส่งผลอย่างร้ายแรงต่อชีวิตของเธอ เธอรู้สึกอ่อนล้า นอกจากนี้ยังมีตุ่มขึ้นที่ช่องคลอดและทวารหนัก น้ำหนักลดและประจำเดือนมาไม่ปกติ

 

 

เป็นขนาดนี้แทนที่จะทิ้งความฝันไป แต่ทั้งคู่กลับใช้เวลาที่เหลืออย่างคุ้มค่าที่สุด เพื่อชดเชยหลายสิบปีที่พวกเค้าเสียมันไป

แต่ก็ต้องเจอเรื่องราวอีกระลอก เมื่อหมอวินิจฉัยว่าอาการของ Emmy อยู่ในขั้นรุนแรง จนไม่สามารถจะบินไปต่างประเทศได้

นั่นทำให้ Jake ตัดสินใจที่ทิ้งตั๋วทัวร์ฟิลิปปินส์ เพื่อที่จะมาดูแล Emmy อย่างเต็มที่ โดยได้รับการสนับสนุนและความช่วยเหลือจากครอบครัวและเพื่อนฝูงด้วย

 

 

หญิงสาวบอกว่า “แม้ข่าวร้ายนี้จะทำให้ฉันตกใจและเสียใจมาก แต่มันก็ทำให้ฉันตระหนักได้ว่าควรจะใช้เวลานับจากนี้อย่างคุ้มค่า ที่สำคัญฉันได้เห็นคนสำคัญของชีวิตอยู่เคียงและคอยดูแลฉันเสมอ”

“ฉันอยากขอบคุณทุกคนที่คอยดูแลและให้กำลังใจฉันมาโดยตลอด แล้วเชื่อหรือไม่ว่าพวกเขาคือยารักษาแผลใจที่ดีที่สุดของฉันในตอนนั้น”

“ฉันรู้สึกเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลก เพราะได้เจอแต่คนดีๆ ที่หวังดีกับฉันเสมอ แม้จะเจ็บปวดแต่ฉันกลับยิ้มได้ก็เพราะคนเหล่านี้แหละ”

 

 

หลังจากนั้นคู่รักก็ตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตที่เหลือตามความต้องการของ Emmy ทุกอย่าง และในวันที่ 26 มิถุนายนปีที่แล้ว คู่รักก็ได้ออกไปปั่นจักรยานด้วยกันเป็นเวลา 2,000 กิโลเมตร

ทั้งคู่ปั่นจักรยานจากกรุงลอนดอนไปยังกรุงโคเปนเฮเกน โดยผ่านเมืองบรูชและเมืองอัมสเตอร์ดัม ไปตามเส้นทาง North Sea Cycle Route พร้อมกันนั้นพวกเขายังได้ระดมเงินเพื่อช่วยองค์กรการกุศล The Royal Marsden Cancer ด้วย

 

 

ปัจจุบันเว็บไซต์ของ Emmy และ Jake ได้เงินบริจาคมากกว่า 6,000,000 บาทแล้ว

พวกเขาได้เดินทางระดมทุนต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งวันที่ 16 มิถุนายน ปี 2017 Emmy ก็ได้เสียชีวิตลงในวัย 31 ปี นั่นคือวันที่หัวใจของ Jake แตกสลายออกเป็นเสี่ยงๆ

เขาได้แจ้งข่าวการเสียชีวิตของภรรยาที่รักในเฟซบุ๊กไว้ว่า “ผมรู้สึกเหมือนทุกอย่างมันว่างเปล่า มองไปทางไหนก็ไม่เห็นเธออีกแล้ว ความเจ็บปวดมันได้แผ่ไปทั่วหัวใจของผม และไม่มีช่วงเวลาไหนเลยที่ผมไม่คิดถึงเธอ”

“เธอคือโลกทั้งใบของผม เธอคือเหตุผลที่ทำให้ผมต้องตื่นเช้าทุกวัน และทำให้ผมเป็นคนที่ดีขึ้น เธอคือคนที่ร่วมปั่นจักรยานเคียงข้างกัน เธอคือเพื่อนที่ดีที่สุด เธอคือล็อบสเตอร์ เป็นภรรยา และเป็นฮีโร่ของผม”

 

.

 

เขายังบอกอีกว่า จริงๆ แล้วมีคำพูดมากมายที่อยากพูดถึงภรรยา แต่แล้วเขาก็พบว่าต่อให้พูดไปแค่ไหนมันก็ไม่เพียงพอสำหรับผู้หญิงที่ดีที่สุดคนนี้ มันไม่มีคำพูดไหนที่จะอธิบายถึง Emmy ความรักที่เขามีต่อเธอ รวมทั้งความเศร้าในใจของเขาตั้งแต่เธอจากไป

แต่ถึงอย่างนั้นโพสต์ที่เขาไปเขียนลงไปนี้คือ ทุกอย่างที่เขาจะสามารถพูดได้ และอยากขอบคุณเพื่อน ครอบครัว และคนอื่นๆ ที่เป็นห่วงและส่งกำลังใจมาให้ตลอด

 

 

Jake พยายามเก็บตัว ปิดโทรศัพท์ ตัดขาดจากโลกภายนอก แสร้งทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่สิ่งเหล่านั้นไม่ได้ทำให้เขาลืมเธอได้แม้แต่นิดเดียว

แม้ภรรยาจะจากไประยะหนึ่งแล้ว แต่ Jake และครอบครัวของหญิงสาวยังรู้สึกว่ามันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน และทุกคนก็ยังทำใจกับเรื่องนี้ไม่ได้

 

 

แต่อย่างน้อย Jake ก็คิดว่า การจากไปในเวลาอันรวดเร็วนี้ ทำให้หญิงผู้ที่รักไม่ต้องอยู่อย่างทรมานอีกต่อไปและเชื่อว่าตอนนี้เธอคงไปสบายแล้ว

ดังนั้นเขาและคงอื่นๆ ก็ควรที่จะยินดีกับเธอเช่นกัน และควรจะทำตัวให้มีความสุขเพื่อให้เธอไปโดยต้องห่วงคนที่ยังอยู่อีกต่อไปแล้ว นั่นคือสิ่งเดียวที่พวกเขาจะทำให้เธอได้

 

 

นอกจากนี้ต้องขอบคุณคนอื่น ทั้งรู้จักและไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว ที่ได้ส่งอีเมลล์ การ์ด และข้อความให้กำลังใจเข้ามาอย่างล้นเหลือ มันทำให้ใจของ Jake รู้สึกได้รับการเติมเต็มในช่วงเวลาแห่งการสูญเสียเช่นนี้

เขาบอกว่า “ผมรู้สึกสิ้นหวังตั้งแต่เธอจากไป แต่ข้อความเหล่านี้ทำให้ผมรู้สึกว่ามีคนที่รักเรามากเหลือเกิน ผมอยากขอบคุณทุกคนที่คอยให้กำลังใจเรามาตลอด”

 

 

สุดท้ายเขาบอกกับคู่รักคู่อื่นๆ ว่า หากคุณมีคนที่รัก ให้บอกรักเค้า กอดเค้า ทำกิจกรรมด้วยกัน ทำให้เค้ามีความสุข ใช้เวลาด้วยกันให้คุ้มค่าที่สุด เพราะคุณไม่มีทางรู้ว่าวันพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

เขายังบอกอีกว่า “ตอนนี้ไม่ว่า Emmy จะอยู่ที่ไหน ทำอะไร เธอก็ยังคงอยู่ในใจของผมเสมอ เธอยังเป็นกำลังใจที่ดีของผมเสมอ เธอยังเป็นคนที่ผมรักมากที่สุดเสมอ และผมยังรู้สึกโชคดีเสมอที่เธอเลือกผมให้เป็นคู่ชีวิต”

 

.

.

.

.

.

ที่มา mirror

Comments

Leave a Reply